ดร. นลินี ทวีสิน ดัน Soft power ไทยขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย-นิคารากัว

ดร. นลินี ทวีสิน ดัน Soft power
ดร. นลินี ทวีสิน ดัน Soft power ไทยขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย-นิคารากัว


ดร. นลินี ทวีสิน ดัน Soft power ไทยขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย-นิคารากัว มุ่งมิติการเชื่อมโยงของประชาชน ชูจุดเด่นของไทยในการเป็นประตูสู่ภูมิภาคอาเซียน

ดร. นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย(ทีทีอาร์) เปิดเผยภายหลังการหารือกับนางซันดี อานาเบลล์ ดาบิลา ซันโดบัล (H.E. Ms. Sandy Anabell Dávila Sandoval) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐนิการากัวประจำประเทศไทย ถิ่นพำนัก ณ กรุงโตเกียวในโอกาสเดินทางทางเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายอักษรสาส์นตราตั้งในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ว่า การพบกันครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ไทยและนิการากัวจะได้กระชับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน ในหลายด้าน

ปี 2566 การค้ารวมของสองประเทศขยายตัวกว่าร้อยละ 67

เนื่องด้วยที่ผ่านมานิการากัวนับเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยในภูมิภาคอเมริกากลางที่มีแนวโน้มเติบโตทางการค้าระหว่างกันที่ดีดังจะเห็นได้ว่า ในปี 2566 การค้ารวมของสองประเทศขยายตัวกว่าร้อยละ 67 โดยมีมูลค่า 54.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้ใชโอกาสนี้ เชิญให้ภาคเอกชนนิคารากัวเข้ามาลงทุนในไทย โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษ และใช้ไทยเป็นประตูสู่อาเซียน

ผู้แทนการค้าไทย เสริมว่า ตนและท่านทูตนิคารากัวยังเห็นพ้องว่าการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน ทั้งในมิติด้านการเชื่อมโยง เช่น การยกเว้นการตรวตลงตราวีซ่าสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการ การส่งเสริม Soft Power ของทั้งสองประเทศ ทั้งในด้านวัฒนธรรม กีฬา และแฟชั่นการเดินทางเข้าร่วมงานแสดงสินค้าของแต่ละฝ่าย จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ของสองประเทศให้มีพลวัตและมีความยั่งยืน นอกจากนี้ ท่านทูตนิคารากัวได้แสดงความสนใจในการประชาสัมพันธ์กาแฟคุณภาพสูงของนิคารากัวให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยมากขึ้น

ดร. นลินี ทิ้งท้ายว่า ในปี 2568 จะเป็นปีที่ไทยและนิคารากัวสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 50 ปี ซึ่งเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระดังกล่าว ไทย-นิคารากัวจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ การส่งเสริมความร่วมมือวิชาการและการศึกษา ด้านเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ

ผู้แทนการค้าไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ทีทีอาร์ชู ความพร้อมของไทยในการเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารและพลังงานทดแทนให้แซมเบีย