

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แอปเปิล ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทวอทช์ โดยเฉพาะ Apple Watch ที่ถือเป็นอุปกรณ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ที่ใส่ใจในเรื่องสุขภาพและเทคโนโลยี
ล่าสุดมีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อบริษัทที่หลายคนอาจไม่คาดคิดอย่าง หัวเว่ย ได้ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์สมาร์ทวอทช์อันดับ 1 ของโลกแทนที่ แอปเปิล
จากข้อมูลล่าสุดของ IDC ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดชั้นนำ ระบุว่า ในปีนี้ หัวเว่ย ได้แซงหน้า แอปเปิล เป็นครั้งที่สองติดต่อกัน โดยในช่วงระหว่างไตรมาสแรกถึงไตรมาสที่สามของปี 2024หัวเว่ย สามารถจัดส่งสมาร์ทวอทช์และอุปกรณ์สวมใส่อื่น ๆ ได้มากถึง 23.6 ล้านเครื่อง ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 16.9% ขณะที่ แอปเปิล มีส่วนแบ่งที่ 16.2% ด้วยการจัดส่งไป 22.5 ล้านเครื่อง
ที่น่าสนใจคือ หัวเว่ย สามารถสร้างการเติบโตได้ถึง 44.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในขณะที่ แอปเปิล กลับมีส่วนแบ่งการตลาดลดลง 12.8% ทำให้การเติบโตของ หัวเว่ย เป็นที่จับตามองในอุตสาหกรรมสมาร์ทวอทช์ทั่วโลก
เหตุผลสำคัญ คือ การเติบโตที่โดดเด่นในตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดอุปกรณ์สวมใส่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนี้ โดย หัวเว่ย มีส่วนแบ่งการตลาดที่แข็งแกร่งในภูมิภาคนี้
นอกจากนี้ ยังมีการขยายตลาดไปทั่วโลก โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 2 ของปี 2024 ที่ผ่านมา หัวเว่ย สามารถครองส่วนแบ่งตลาดโลกได้ถึง 20% ขณะที่ แอปเปิล ทำได้เพียง 13%
อีกทั้งยังเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีที่น่าสนใจในวงการสมาร์ทวอทช์ โดยล่าสุดมีการเปิดตัว Huawei Watch D2 ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีวัดความดันโลหิตที่แม่นยำ สามารถใช้งานได้ทั้งขณะเดินหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งการตรวจวัดสุขภาพในช่วงเวลาต่าง ๆ ได้แบบอัตโนมัติ
ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ทุกประเภท รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพและความสะดวกสบาย หัวเว่ย กำลังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการสมาร์ทวอทช์ และเตรียมพร้อมที่จะท้าทาย แอปเปิล ในตลาดโลกอย่างเต็มตัว
การเติบโตอย่างรวดเร็วของ หัวเว่ย น่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในอุตสาหกรรมสมาร์ทวอทช์ในปี 2024 และอาจจะทำให้ แอปเปิล ต้องพิจารณากลยุทธ์ใหม่ในอนาคต ขณะที่การแข่งกันในตลาดโลกยังคงเข้มข้นต่อไป
https://www.digitaltrends.com/mobile/huawei-just-beat-apple-number-one-smartwatch-wearable-company/?