SHR เครือสิงห์ฯ นำโรงแรม 4 พอร์ต Q1 ปี 66 กำไรโต 16% รายได้ในไทยพุ่ง 3 เท่า ขานรับตลาดท่องเที่ยวโลกฟื้นตัว



  • SHR เครือสิงห์เอสเตท ตีปีกไตรมาส1ปี’66นำโรงแรม4พอร์ตโฟลิโอ ทำกำไรสูงกว่าไตรมาสก่อน 125 ล้านบาท
  • เติบโต 16% ทุกพอร์ตฟื้นตัวขานรับเทรนด์ตลาดท่องเที่ยวโลกฟื้นตัว
  • นำโรงแรมในไทยรายได้โต 3 เท่า มีอัตราพักสูงถึง 85%ขึ้นค่าห้องเพิ่มได้ 8%

บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชนหรือ ‘SHR’ บริษัทในเครือสิงห์ เอสเตท รายงานว่าผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2566 รายได้จากการขายและบริการ 2,544 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 16% จากไตรมาสและจากช่วงเดียวกันกับปีก่อนเพิ่มขึ้น 51% ทำผลกำไรสุทธิ125 ล้านบาท ติดต่อกัน 3 ไตรมาส ขยายตัวทุกพอร์ตโฟลิโอ สอดรับการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของการท่องเที่ยวโลก

ไตรมาส 1 ปีนี้ ธุรกิจที่ทาง SHR ลงทุนทั้ง 4 พอร์ตโฟลิโอ ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 โรงแรมในประเทศที่เมืองไทย หลังเปิดประเทศมีรายได้เติบโตขึ้นกว่า 3 เท่า มีอัตราการเข้าพักไตรมาสแรกปีนีเฉลี่ย 85% แล้วยังสามารถปรับค่าห้องพักเฉลี่ยรายวัน (Average Daily Rate: ADR) สูงขึ้นจากก่อนโควิดได้อีกกว่า 8%

กลุ่มที่ 2 โรงแรมในต่างประเทศ 2 โครงการ ได้แก่ ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ (CROSSROADS Maldives) และในสหราชอาณาจักร ส่งสัญญาณบวกเติบโตต่อเนื่อง นั่นคือ

โครงการที่ 1 CROSSROADS มัลดีฟส์ โดดเด่นและมีลักษณะเฉพาะตัวแตกต่างจากทั่วไปจึงสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้หลายกลุ่ม ทำให้มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทำสถิเติบโตสูงที่สุดสุดถึง 87% นับเป็นการบริหาร รายได้ต่อห้องพักต่อคืน หรือ RevPAR ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดร่วมกับการพัฒนาและปรับปรุงห้องพักตอบสนองกระแสนิยมการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

โครงการที่ 2 โรงแรมสหราชอาณาจักร ถึงจะเป็นช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวยังทำอัตราเข้าพักสูงถึง 66% ทำราคาได้ถึง50 ปอนด์/ห้อง/คืน สูงกว่าก่อนเกิดโควิด-19 ปี 2562

นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SHR เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2566 ได้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ เป็นผลมาจากฐานรากทางธุรกิจแข็งแรงพร้อมรับการท่องเที่ยวเติบโตอย่างเต็มศักยภาพด้วย 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ปัจจัยที่ 1 SHR มุ่งเน้นสนับสนุนพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลต่าง  การยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยว ปัจจัยที่ 2 เชื่อมั่นอย่างยิ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ท่องเที่ยวทั่วโลกปีนี้ฟื้นตัวอย่างแข็งแรง  

ปัจจัยที่ 3 ผลสำเร็จจากกลยุทธ์บริหาร RevPAR และการเดินหน้าปรับปรุงประสิทธิภาพของพอร์ตโฟลิโอ จะทำให้ผลประกอบการของ SHR ปี 2566 สร้างความประทับใจ เห็นได้จากผลสัมฤทธิ์ที่ปรากฎซึ่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับอุตสาหกรรมภาพรวมได้อย่างทรงพลัง ช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้จะทำให้ยิ่งขึ้นต่อไป

โดย SHR พร้อมเดินหน้าตามวิสัยทัศน์มุ่งดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสิงห์ เอสเตท ด้านESG (Environment Social Governance) ทั้ง 3 มิติ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการนำแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดขับเคลื่อนความยั่งยืนภายใต้มาตรฐาน Green Globe(TM) มาใช้กำกับดูแลการบริหารจัดการ ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลกว่าเป็นเกณฑ์มาตรฐานสูงสุดในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ ทำให้ SHR ประสบความสำเร็จยกระดับโรงแรมในไทยและมัลดีฟส์ ได้แก่ ทราย ลากูน่า ภูเก็ต , ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ , สันติบุรี เกาะสมุย และครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ ได้รับประกาศนียบัตรด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับสากล จาก Green Globe(TM) ซึ่งถือเป็นมาตราฐานที่การยอมรับจากสภาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับโลก (Global Sustainable Tourism Council) และองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO)

ส่วนพันธสัญญาสำคัญของ SHR อีกอย่างตั้งใจจะผลักดันมาตลอดเรื่องการสร้างผลตอบแทนที่สูงสุดให้ผู้ถือหุ้น เพื่อจะให้บรรลุเป้าหมายในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีที่ผ่านมา บริษัทฯ จึงขออนุมัติที่ประชุม เพื่อโอนส่วนล้ำมูลค่าหุ้นเพื่อล้างผลขาดทุนสะสม เพื่อจะทำให้บริษัทฯ ไม่มีผลขาดทุนสะสมในงบการเงินเฉพาะกิจการ และสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้เมื่อบริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานในอนาคต ถือเป็นการเตรียมพร้อมรับฟื้นตัวของธุรกิจในปี 2566

รวมทั้งยังมุ่ง “สร้างสมดุลแหล่งเงินทุน” ของบริษัท รองรับการเติบโตในอนาคต โดยประชุมมีมติอนุมัติการออกหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งในอนาคตจะพิจารณาออกและเสนอขายหุ้นกู้ โดยคำนึงถึงความจำเป็นในการใช้เงินเพื่อรองรับแผนขยายกิจการ แล้วสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นในระยะยาว และ/หรือชำระคืนเงินกู้เดิมบนเงื่อนไขที่เหมาะสมของสภาวะตลาดตราสารหนี้ และต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ เพื่อบริหารต้นทุนให้เหมาะสมสูงสุด

นายเดิร์ก กล่าวว่า เมื่อนักท่องเที่ยวทั่วโลกกลับมาเดินทางหลังจากทุกประเทศยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ ทำให้ปี 2566 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างก้าวกระโดด บวกกับกลยุทธ์ผลักดันธุรกิจของ SHR ทำมาตลอดจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาใช้บริการได้หลากหลายกลุ่มตลาดมากขึ้น จะเป็นแรงหนุนสำคัญทำให้ธุรกิจเติบโตได้เต็มอัตราและขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ปี 2566 SHR ยังคงตั้งเป้าจะทำรายได้ให้สูงกว่า 10,000 ล้านบาท ทำอัตราการเข้าพักเฉลี่ยตลอดปีให้ได้ไม่ต่ำกว่า75% ควบคู่กับการบริหารค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างผลกำไรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญด้วย

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen