ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อความร่วมมือทางธุรกิจกับ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ต้องการลงทุนซื้อสถานประกอบการ ผ่านโครงการสินเชื่อเพื่ออสังหาริมทรัพย์ทางธุรกิจ
การลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่กำลังตัดสินใจลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ทางธุรกิจ เช่น โรงงาน โกดังอาคารพาณิชย์ ฯลฯ จาก SAM ผ่านการสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจเพื่อลงทุนในสถานประกอบการของธนาคารยูโอบี พร้อมกับอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระ และเงื่อนไขพิเศษจากธนาคาร
นางสยุมรัตน์ มาระเนตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Head of Business Banking ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “ธนาคารเล็งเห็นถึงความต้องการของธุรกิจเอสเอ็มอี ในการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ สำหรับต่อยอดการเติบโตของธุรกิจ ความร่วมมือกับ SAM ครั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ทางธุรกิจกับทาง SAM สามารถขอรับพิจารณาสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ และระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุดถึง 30 ปี ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น”
นายสุรงค์ สุวรรณวานิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่าง SAM และธนาคารยูโอบี ในโครงการสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ทางธุรกิจ ในครั้งนี้ นอกจากช่วยสนับสนุนและสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการซื้อทรัพย์สินรอการขายะเทศ ให้ได้มีโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงิน และมีทางเลือกในการยื่นขอสินเชื่อด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมแล้ว ยังเป็นการช่วยทำให้เกิดการนำทรัพย์ NPA ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์กลับสู่ระบบเศรษฐกิจและถูกใช้ประโยชน์อย่างเต็มศักยภาพ อันจะนำมาซึ่งความเข้มแข็งและความเติบโตของประเทศโดยรวม”
เกี่ยวกับ SAM : บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐภายใต้กำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีบทบาทในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพโดยยึดหลักธรรมาภิบาล เพื่อขับเคลื่อนระบบสถาบันการเงินให้เติบโตอย่างมั่งคั่งและยั่งยืน
เกี่ยวกับธนาคารยูโอบี
ธนาคาร ยูโอบี เป็นธนาคารชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย มีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศสิงคโปร์และมีการดำเนินธุรกิจในจีน อินโดนิเซียมาเลเซีย ไทย และเวียดนาม อีกทั้งยังมีเครือข่ายระดับโลกที่ประกอบด้วยสำนักงานประมาณ 500 แห่ง ใน 19 ประเทศและเขตการปกครอง ทั้งในเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ 2478 ธนาคารยูโอบีได้พัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านการควบรวมกิจการที่สำคัญ ปัจจุบันธนาคารยูโอบีได้รับการจัดลำดับให้เป็นธนาคารที่มีความแข็งแกร่งในระดับสากลจากบริษัทจัดลำดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้แก่ Aa1 โดย มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และ AA- โดย ฟิทช์ เรทติ้งส์ และเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติงส์
ตลอดระยะเวลาเกือบ 9 ทศวรรษ ธนาคารยูโอบีดำเนินธุรกิจโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อสร้างคุณค่าให้แก่ธุรกิจในระยะยาวโดยการปรับกลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคผ่านพลังงานแห่งความสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นในการทำสิ่งที่ถูกต้องแก่ลูกค้า ยูโอบีพร้อมที่จะพัฒนาอนาคตของภูมิภาคอาเซียนในเติบโต ทั้งประชากรและธุรกิจให้มีความเชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึงในภูมิภาค
เกี่ยวกับธนาคารยูโอบี ประเทศไทย
ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เป็นธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีเครือข่ายทั่วประเทศ 147 สาขา และเครื่องเบิกเงินสดอัตโนมัติ 343 เครื่อง (ข้อมูลถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566) โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ ได้แก่ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส (อันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะยาวที่ A3) และฟิทช์ เรทติ้งส์ (อันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวที่ A- และความน่าเชื่อถือภายในประเทศระยะยาวที่ AAA(tha))
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ธนาคารยูโอบี ประกาศเข้าร่วมโครงการ GoGreen Plus ของดีเอชแอล