“ภูมิธรรม” บินตรวจน้ำท่วม จังหวัดลำปาง หลังน้ำล้น สั่งเร่งระบายเพิ่ม

ภูมิธรรม


“ภูมิธรรม” เข้มติดตามสถานการณ์น้ำท่วม จังหวัดลำปาง เร่งศึกษา 3 แนวทางแก้ปัญหา ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำแม่น้ำวังท้ายเขื่อนกิ่วคอหมา เพิ่มความจุของเขื่อนกิ่วคอหมาและเขื่อนกิ่วลม การก่อสร้างแนวผันน้ำเลี่ยงเขตเศรษฐกิจ

  • เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำแม่น้ำวังท้ายเขื่อน
  • ก่อสร้างแนวผันน้ำเลี่ยงเขตเศรษฐกิจ

วานนี้ 28 กันยายน 2567) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในเขตจังหวัดลำปาง โดยได้เดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำที่เขื่อนกิ่วคอหมา พร้อมพบปะพี่น้องประชาชนชาวอำเภอแจ้ห่ม

โดยมี นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน นายอาทิว ทุ่งเจ็ด ผู้อำนวยการโครงการชลประทานลำปาง นายพีรยุทธ์ เหมาะพิชัย ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลมกิ่วคอหมา และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และบรรยายสรุปสถานการณ์ ณ เขื่อนกิ่วคอหมา ต.ปงดอน อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง

จังหวัดลำปาง ได้รับอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นยางิ และพายุดีเปรสชั่นซูลิก ในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากไหลลงเขื่อนกิ่วคอหมาเป็นจำนวนมาก ต่อเนื่องหลายวันจนเกินความจุเก็บกักของเขื่อน

ดังนั้น กรมชลประทานโดยโครงการส่งน้ำ และบำรุงรักษากิ่วลมกิ่วคอหมาได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำ เพื่อเป็นการรักษาสมดุลน้ำและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นของตัวเขื่อน

ซึ่ง ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำพื้นที่ได้รับผลกระทบ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนประมาณ 10 หลังคาเรือน ซึ่งผลจากการระบายน้ำของเขื่อนกิ่วคอหมา รวมกับปริมาณน้ำจากลำน้ำสาขา ทำให้เขื่อนกิ่วลมที่อยู่ด้านล่าง มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย จำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำเช่นกัน

นาย ภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ฝนที่ตกบริเวณด้านท้ายเขื่อน ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำวังเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทานได้ออกประกาศแจ้งเตือนพื้นที่ลุ่มต่ำ 2 ฝั่งแม่น้ำวัง และด้านท้ายเขื่อนกิ่วลม ให้ยกของขึ้นที่สูงพร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดแล้วก่อนหน้านี้

สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำวังเอ่อล้นตลิ่ง เป็นพื้นที่ริมแม่น้ำในเขตเทศบาลนครลำปางบางส่วน พื้นที่เศรษกิจไม่ได้รับผลกระทบ กรมชลประทานได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่และเทศบาลนครลำปาง สนับสนุนเครื่องจักร เครื่องมือ และเครื่องสูบน้ำพร้อมกำลังพลเข้าให้การช่วยเหลือเบื้องต้น

เพื่อลดผลกระทบความเสียหายในพื้นที่ ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม คาดว่า จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในเร็ววันนี้ ซึ่งหลังจากน้ำลดแล้ว จะเร่งสำรวจและจัดส่งเครื่องจักร เครื่องมือ รถบรรทุกน้ำ พร้อมกำลังคน เข้าไปฉีดล้างทำความสะอาดและฟื้นฟูบ้านเรือนประชาชนอย่างเร่งด่วนต่อไป

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์การอุทกภัยที่เกิดขึ้น กรมชลประทาน มีแนวทางแก้ไขปัญหาในระยะยาว ด้วยการศึกษา 3 แนวทาง ประกอบด้วย การเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำแม่น้ำวังท้ายเขื่อนกิ่วคอหมา การเพิ่มความจุของเขื่อนกิ่วคอหมาและเขื่อนกิ่วลม การก่อสร้างแนวผันน้ำเลี่ยงเขตเศรษฐกิจ อำเภอเมืองลำปาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดผลกระทบให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด

รองนายกฯภูมิธรรม เปิดเผย การลงพื้นที่เยี่ยมเยือนพี่น้องชาวลำปางในวันนี้ เนื่องจากรัฐบาลมีความเป็นห่วงพี่น้องชาวลำปาง พร้อมกับเน้นย้ำหน่วยงานต่างๆในเรื่องของการเตือนภัยและแจ้งเตือนให้กับพี่น้องประชนได้รับทราบการข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง

รวมไปถึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าไปช่วยเหลือฟื้นฟูบ้านเรือนประชาชน ถนนหนทาง หน่วยงานราชการต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติในเร็ววัน

  • เตือนภัย ฉบับ 1 อากาศแปรปรวน

นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบนฉบับที่ 2 (214/2567) (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 29 กันยายน – 3 ตุลาคม 2567)

ในช่วงวันที่ 29 ก.ย. – 3 ต.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือด้านตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้

ประกอบกับร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีลักษณะอากาศแปรปรวนเกิดขึ้นได้

โดยมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีฝนตกหนักบางแห่งและมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก หลังจากนั้นอากาศจะเย็นลง กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง

ทั้งนี้ จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมถึงดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้

ในวันที่ 29 กันยายน 2567

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม

ในวันที่ 30 กันยายน – 1 ตุลาคม 2567

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรีพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ในช่วงวันที่ 2 – 3 ตุลาคม 2567

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรีพระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : “จุลพันธ์” ย้ำ! มาตรการช่วยน้ำท่วม พร้อมเดินหน้าลุยแจกถุงยังชีพ

: กรมชลประทาน