ครม.เคาะมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์

บรรยากาศการแถลงข่าว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์
บรรยากาศการแถลงข่าว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์

ครม.เห็นชอบ มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ลดค่าธรรมเนียมการโอน จาก 2% เหลือ 0.01% จดจำนองจาก1%เหลือ 0.01% จำกัดราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ธอส.และออมสินปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำวงเงินรวม 50,000 ล้านบาท คาดช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.7-1.8%

วันที่ 9 เมษายน 2567 นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และการเตรียมการเพื่อรองรับการดำเนินการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก (Thailand Vision) เพื่อสนับสนุนการมีที่อยู่อาศัยของประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจ ที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง แถลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์

ทั้งนี้กระทรวงการคลังรายงานครม.ว่าในช่วงไตรมาส 4 ปี2566  ภาคอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวติดลบ 8.8 %  จากปกติจะเป็นบวกมาโดยตลอด จึงมีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ขึ้นมา

นอกเหนือจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์แล้วยังมีการทบทวนหลักเกณฑ์ต่างๆที่จะกระตุ้นตามมาอีก ไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติหรือคนไทยที่มาซื้ออสังหาริมทรัพย์ การพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถือครองที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ ซึ่งมีความสำคัญ

และเกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์ Thailand Vision ในการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ที่มีเป้าหมายในการดึงดูดนักลงทุนและผู้มีความเชี่ยวชาญพิเศษที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตให้มาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับหน่วยงานอื่นๆ ที่ต้องผ่อนปรนหลักเกณฑ์ต่างๆ

โดยครม.มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการพิจารณาผ่อนผันหลักเกณฑ์ต่างๆ

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง(ซ้าย)

ด้านนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังกล่าวว่า รายละเอียดมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์มีดังนี้

1. การปรับปรุงมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ปี 2567 โดยลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนอง อสังหาริมทรัพย์จาก 1% เหลือ 0.01%เฉพาะที่จดทะเบียนโอนในคราวเดียวกัน สำหรับการซื้อขาย อสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ อาคารที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด หรือบ้านแถว หรืออาคารพาณิชย์ หรือที่ดินพร้อมอาคารดังกล่าว หรือห้องชุดที่จดทะเบียนอาคารชุด

รายละเอียดมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์

โดยมีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 7 ล้านบาท ต่อสัญญา โดยไม่รวมถึงกรณีการขายเฉพาะส่วน ทั้งนี้ สำหรับผู้ซื้อ ที่เป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่กฎหมายได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567

2. มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน กำหนดให้บุคคลธรรมดา หักลดหย่อนค่าจ้างก่อสร้างบ้านให้แก่ผู้รับจ้าง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการจ่ายค่าจ้างตามสัญญาจ้างตั้งแต่วันนี้ (9 เมษายน 2567) ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568

รายละเอียดมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์

โดยให้หักลดหย่อนภาษีได้ 10,000 บาท ต่อทุกจำนวนค่าก่อสร้าง 1 ล้านบาท ตามจำนวน ที่จ่ายจริง แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 100,000 บาท หรือค่าจ้างก่อสร้างบ้านไม่เกิน 10 ล้านบาท  เฉพาะค่าจ้างก่อสร้างบ้านไม่เกิน 1 หลัง ในปีภาษีที่ก่อสร้างบ้านเสร็จ

ตามสัญญาจ้างที่ได้กระทำขึ้นและเริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันนี้ (9 เมษายน 2567) ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 และได้เสียอากรแสตมป์โดยวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์
รายละเอียดมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ โครงการ Happy Home

3. โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home วงเงินโครงการ 20,000 ล้านบาท โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สนับสนุนสินเชื่อให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด ปลูกสร้างอาคารหรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร และเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี

วงเงินต่อรายสูงสุด ไม่เกิน 3,000,000 บาท ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 40 ปี โดยประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถยื่นคำขอกู้กับ ธอส. ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่า ธอส. ให้สินเชื่อเต็มตามกรอบวงเงินของโครงการ

4. โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Life วงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท โดย ธอส. สนับสนุนสินเชื่อ ให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด ปลูกสร้างอาคารหรือซื้อที่ดินพร้อม ปลูกสร้างอาคาร เพื่อต่อเติม ขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร หรือไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น

อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่  2.98% ต่อปี วงเงินต่อรายตั้งแต่ 2,500,000 บาทขึ้นไป โดยประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถยื่นคำขอกู้กับ ธอส. ได้ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.เป็นต้นไป หรือจนกว่า ธอส. ให้สินเชื่อเต็มตามกรอบวงเงินของโครงการ

บ้านบีโอไอ
รายละเอียดมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์โครงการบ้านบีโอไอ

5. การให้การส่งเสริมกิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย หรือโครงการบ้านบีโอไอ ทางคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ โดยได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 3 ปี ในวงเงิน ไม่เกิน 100 %ของเงินลงทุน ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน สำหรับการสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข

เช่น 1. ที่อยู่อาศัยที่ขอรับการส่งเสริม กรณีอาคารชุดต้องมีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 24 ตารางเมตร และกรณีบ้านเดี่ยวหรือบ้านแถว ต้องพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 70 ตารางเมตร 2. การก่อสร้างที่อยู่อาศัย ที่ขอรับการส่งเสริมต้องจำหน่ายให้บุคคลธรรมดาเท่านั้น โดยก่อสร้างที่อยู่อาศัย (รวมค่าที่ดิน) ราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท

3. ต้องมีที่อยู่อาศัยตามเงื่อนไขที่กำหนดไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของที่อยู่อาศัยทั้งโครงการ 4. มีแผนผังและแบบแปลน ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ และได้รับการอนุญาตก่อสร้างอาคารตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 5. ต้องยื่นขอรับการส่งเสริมภายในวันทำการสุดท้ายของปี 2568

นอกจากนี้ธนาคารออมสินยังมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่าน ภาคอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ 1.โครงการสินเชื่อบ้านออมสินเพื่อประชาชน วงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท โดยสนับสนุนสินเชื่อสำหรับบุคคลทั่วไป เพื่อซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ห้องชุด หรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง

อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่  2.95% ต่อปี โดยปีที่ 1 คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.95 ปีที่สอง 2.95% และปีที่สาม 3.95 % วงเงินกู้ต่อรายสูงสุด ไม่เกิน 7,000,000 บาท ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 40 ปี พร้อมเงื่อนไขเงินงวดผ่อนชำระต่ำพิเศษ เริ่มต้น 2,500 บาทต่อเดือน โดยสามารถยื่นคำขอกู้กับธนาคารออมสินได้ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2567 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2567

2.โครงการสินเชื่อ D-HOME สำหรับผู้ประกอบการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท โดยสนับสนุนสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการนำไปเป็นเงินลงทุน ได้แก่ ค่าที่ดิน ค่าก่อสร้าง ค่าพัฒนาสาธารณูปโภค หรือเป็นเงินหมุนเวียนในกิจการ อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น  3.50% ต่อปี ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 4 ปี  ฟรีค่าธรรมเนียม โดยสามารถยื่นคำขอกู้ได้กับธนาคารออมสินตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2567 เป็นต้นไป

“จากการสำรวจคาดว่าจะมี อสังหาริมทรัพย์เหลืออยู่ในตลาดประมาณ 200,000 หน่วย ดังนั้นจะมีการซื้อขายประมาณ 800,000 ล้านบาท มีผลต่อเศรษฐกิจด้านการลงทุนประมาณ 400,000 ล้านบาท มีผลต่อการบริโภค 120,000 ล้านบาท รวมแล้วทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ประมาณ 1.7-1.8 %” นายพรชัยกล่าว