

“ลิณธิภรณ์” ชูผลโพล “แพทองธาร” นักการเมืองอันดับ 1 ในไทย อันดับ 3 ในเอเชีย สะท้อนคนไทยเชื่อใจ-ทั่วโลกเชื่อมั่น ในตัวนายกฯ ด้าน นายกฯ ขอบคุณ ผลโพล ปชช.โหวต ยกอันดับ 1 ให้เป็นนักการเมืองแห่งปี 2567
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศูนย์สำรวจความคิดเห็น นอร์ทกรุงเทพโพล มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจประชาชน ยกให้ น.ส.แพทองธาร เป็นบุคคลอันดับ 1 ที่สมควรได้รับการยกย่องให้เป็นนักการเมืองแห่งปี 2567
น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า หลังจากนายกฯ แถลงวิสัยทัศน์และผลงานรัฐบาลหลังเข้าบริหารประเทศ 90 วันแล้ว นอกจากคนไทยจะติดตามการทำงานของรัฐบาลอย่างแข็งขันแล้ว นายกฯ
ยังได้รับคะแนนนิยมจากพี่น้องประชาชนมาเป็นอันดับ 1 ในผลสำรวจของนอร์ทกรุงเทพโพล และเป็นสตรีผู้ทรงอิทธิพลอันดับ 3 ในเอเชีย และอันดับ 29 ของโลก จากผลการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes
น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า สิ่งเหล่านี้คือประจักษ์พยานหลักฐานของความมุ่งมั่นตั้งใจ และผลสำเร็จของรัฐบาลที่นำโดยนายกฯ แพทองธาร เพียง 3 เดือนแรกเท่านั้น และนายกฯ แพทองธาร ได้ประกาศนโยบายไว้อย่างชัดเจน ทั้ง 6 นโยบายระยะยาวที่ต้องทำในเชิงโครงสร้าง
ได้แก่ การจัดการน้ำท่วม-น้ำแล้ง การแก้ปัญหาหมอกควัน PM 2.5 การแก้ปัญหายาเสพติด การทลายการผูกขาด การแก้ปัญหาธุรกิจนอกระบบ และการลงทุนครั้งใหญ่ในอนาคต รวมถึง 5 นโยบายที่กำลังจะทำในปี 2568 ได้แก่ โครงการ SML หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน (ODOS) โครงการดิจิทัลวอลเล็ต การแก้หนี้ครัวเรือน และโครงการบ้านเพื่อคนไทย
“นี่ไม่ใช่แค่ความเชื่อใจจากพี่น้องประชาชนคนไทยเท่านั้น แต่เป็นความเชื่อมั่นจากประชาคมโลก ที่มีต่อท่านนายกฯ แพทองธาร สตรีคนที่ 2 ที่ได้เป็นผู้นำฝ่ายบริหารในประวัติศาสตร์การเมืองไทย0
จึงขอให้ประชาชนรอติดตามนโยบายดี ๆ จากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มีหัวใจเพื่อประชาชน ตลอดปีหน้า 2568 ต่อไป” น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจความคิดเห็นของนอร์ทกรุงเทพโพล มหาวิทยาลัยนอร์ท กรุงเทพ ในประเด็น “ท่านเห็นว่าบุคคลใดที่สมควรได้รับการยกย่องให้เป็นนักการเมืองแห่งปี 2567 ” พบว่า
ประชาชนชื่นชมและชื่นชอบโหวตให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร มาเป็นอันดับหนึ่ง โดยนายกฯ กล่าวขอบคุณทุกกำลังใจ ถือว่าจะเป็นอีกแรงผลักดันสำคัญในการทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนต่อไป
นายจิรายุ กล่าวว่า นายกฯ ทำหน้าที่บริหารประเทศมาเพียง 3 เดือน ได้เร่งผลักดันแก้ไขปัญหาที่เป็นประโยชน์ ต่อประเทศชาติและตรงตามความต้องการของประชาชน ซึ่งผลการสำรวจความคิดเห็นนี้ จะเป็นอีกเสียงที่สะท้อน ถึงความมุ่งมั่นในการทำงาน ความสำเร็จที่เห็นผล
อย่างเป็นรูปธรรมในการเดินหน้าในทุกนโยบายของรัฐบาล และพร้อมรับฟังความคิดเห็น คำชมหรือข้อแนะนำ เพื่อนำไปปรับปรุงให้เป็นประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดิน
นายจิรายุ กล่าวว่า นายกฯ และรัฐบาล ยืนยันว่าจะขอทำงานให้หนักมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งการลงพื้นที่แก้ไขปัญหาในทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ ทุกจังหวัดและทุกภาคของประเทศ จะนำพาประเทศไทยให้เป็นที่รู้จัก
และเชิญชวนนักลงทุน นักท่องเที่ยวมาประเทศไทยให้ได้มากที่สุด โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าในทุกตารางนิ้วของประเทศ ตามนโยบาย 2568 โอกาสไทยทำได้จริง หลังจากภาวะเศรษฐกิจ สังคมหยุดนิ่งมานานหลายปี
นายจิรายุ กล่าวว่า ยืนยันว่าปีหน้าจะเร่งสปีดนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ปีหน้าประชาชนช่วงหน้าฝน จะได้ไม่ต้องมาเสี่ยงภัยกับอุทกภัยซ้ำซากแบบนี้อีก นอกจากนี้การเร่งรัดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ
รัฐบาลจะเร่งทำอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เห็นผลสัมฤทธิ์โดยเร็ว รวมทั้ง การปราบปรามยาเสพติด ที่มอบนโยบายเร่งด่วนให้ส่วนราชการให้ดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งนี้นายกฯ ยืนยันและขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะนำพาเศรษฐกิจ และสังคมรวมทั้งสิ่งดีๆกลับคืนสู่พี่น้องประชาชนให้ได้ในเร็ววันนี้
โดยมีเป้าหมายที่จะต้องทำให้ประเทศไทยหลุดกับดักความยากจนและก้าวไปสู่ประเทศพัฒนาแล้วให้ได้
ข่าวที่เกีย่วข้อง : นายกฯ เปิดงานซอฟต์พาวเวอร์อาหาร เดินหน้าสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้กว่า 3.5 พันล้านบาท