“เศรษฐา”พอใจอย่างมาก ร่วมประชุม UNGA 78 จำนวน 4 วัน ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ทำให้ประเทศไทยอยู่ในสายตาชาวโลกมากยิ่งขึ้น
- นักธุรกิจหลายราย สนใจที่จะลงทุนในประเทศ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี
- ขอบคุณเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ-บีโอไอ
“ประกาศให้ชาวโลกรู้ว่า ประเทศไทยเปิดแล้ว พร้อมที่จะรับทัพลงทุนจากต่างชาติ และการออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพราะมีเอกชนไทยหลายรายที่แข็งแกร่ง พร้อมลงทุนในต่างประเทศ”
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาว่า ในวันที่ 22 กันยายน 2566 วันปิดการเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78(UNGA 78) ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว. คลัง นายเศรษฐากล่าว่า ภารกิจการเข้าร่วมประชุม UNGA 78 ถือเป็นครั้งแรกหลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถือว่าผลการประชุมและการเดินทางมาสหรัฐฯครั้งนี้ เป็นที่พอใจอย่างมาก
อย่างไรก็ตามความสำเร็จที่เกิดขึ้น ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่ทำงานร่วมกันผ่านไปด้วยความราบรื่น และยังประสานงานนำนักธุรกิจไทย พบนักธุรกิจสหรัฐฯ บริษัทชั้นนำหลายราย ซึ่งนักธุรกิจหลายราย สนใจที่จะลงทุนในประเทศ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี
“ตลอด 4 วัน (วันที่ 19-22 กันยายน 2566) ทั้งการเข้าร่วมประชุมUNGA 78 และการประชุมทวิภาคีกับหลายประเทศ ถือเป็นก้าวแรกของการทำงาน ที่ได้ประกาศให้ชาวโลกรู้ว่า ประเทศไทยเปิดแล้ว พร้อมที่จะรับทัพลงทุนจากต่างชาติ และการออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพราะมีเอกชนไทยหลายรายที่แข็งแกร่ง พร้อมลงทุนในต่างประเทศ” นายเศรษฐากล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในที่ประชุม UNGA 78 และประชุมทวิภาคีกับหลายประเทศนั้น ได้มีโอกาสพูดถึงประเด็นดังนี้ ปัญหาโลกร้อน สันติภาพ อากาศบริสุทธ์ ความมั่นคงทางทหาร ปรัชญาเศรฐกิจพอเพียง และอาริยะเกษตร รวมถึงมีโอกาสความร่วมมือการค้าระหว่างกัน การส่งเสริมความมั่นคงทางชายแดน เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันสภาพอากาศมีความแปรปรวน ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้น ทุกคนให้ความสำคัญที่จะต้องปรับตัว ปรับเปลี่ยนตัวเอง เพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่ได้อย่างเหมาะสมและยั่งยืน อีกทั้งต้องให้ความสำคัญต่อสุขภาพด้วย โดยเชื่อว่าจะมีโรคเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นต้องคำนึงถึงการรักษาสุขภาพที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาล กำลังจะยกระดับสุขภาพคนไทยด้วยการยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค ให้เข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
สำหรับคำว่าสันติภาพนั้น มีความเหมายละเอียดก่อนมาก โดยประเทศไทยเรามีความเชื่อเรื่องความสงบ และความเชื่อเรื่องการเจริญเติบโตที่ยั่งยืน โดยไม่เข้าไปก้าวก่ายกิจการภายในของแต่ละประเทศ ปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ความขัดแย้งระหว่างหลายคู่ ซึ่งไทยจะดำรงไว้ซึ่งความเป็นเอกราชและไม่เข้าข้างใคร มีความเชื่อในเรื่องสันติสุขและความเจริญที่ยั่งยืน
ขณะที่การสมัครเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ HRC นั้น ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่ใช่แค่ดูแลสิทธิมนุษยชนเพียงอย่างเดียว ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย ลาว กัมพูชา เมียนมา ทุกฝ่ายให้ความสำคัญ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับถึงไทยแล้วเมื่อเช้านี้
