นายกฯ สั่งส่วนราชการ นโยบายที่แถลงต่อสภา ต้องทำให้เกิดขึ้นจริง

​นายกฯ สั่งส่วนราชการ นโยบายที่แถลงต่อสภา ต้องทำให้เกิดขึ้นจริง ยึดหลัก“เหมาะสม รวดเร็ว ครอบคลุม มีประสิทธิภาพ” ให้ประเทศก้าวหน้า

  • ประชาชนทั่วประเทศมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
  • ระยะเร่งด่วน ขอให้ทุกคนพิจารณาสิ่งที่ทำได้ทันทีก่อน

“ระยะกลางและระยะยาวต้องวางรากฐาน และโครงสร้างพื้นฐานใหม่ให้กับประเทศ การทลายข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ปิดกั้น การพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ สนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือ Soft Power   การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ การปฏิรูปการศึกษา”

วันนี้ (25 ก.ย. 66) เวลา เวลา 11.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2566 ซึ่งสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพ โดยมี นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองและฝ่ายข้าราชการประจำ ผู้บริหารสำนักงาน ก.พ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายหัวหน้าส่วนราชการฯ โดยเน้นย้ำหัวหน้าส่วนราชการฯ ว่า ทุกนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภาในการบริหารราชการแผ่นดินต้องทำให้เกิดขึ้นได้จริง โดยเฉพาะในระยะเร่งด่วนนี้ ขอให้ทุกคนพิจารณาสิ่งที่ทำได้ทันทีก่อน โดยเฉพาะในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเร่งด่วน การลดค่าครองชีพ เพิ่มรายได้ทั้งเกษตรกร พ่อค้าแม่ค้า รวมทั้งการช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้ฟื้นตัวและกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง การส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมทั้งแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันและยาเสพติด

สำหรับในระยะกลางและระยะยาวนั้น นายกรัฐมนตรีต้องการให้หัวหน้าส่วนราชการฯ วางรากฐาน และโครงสร้างพื้นฐานใหม่ให้กับประเทศ การทลายข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ปิดกั้น การพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ รวมทั้งการสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือ Soft Power ของประเทศ การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ การปฏิรูปการศึกษา รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชนที่ครอบคลุมในทุกมิติ ตลอดจนการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน ตามนโยบายรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาของทั่วโลกในปัจจุบันและอนาคต

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการที่ได้ลงพื้นที่ในหลายจังหวัด เพื่อรับทราบประเด็นปัญหา และแนวทางการพัฒนา ทำความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล รวมทั้งยังได้รับทราบความก้าวหน้าของโครงการต่าง ๆ และได้รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคส่วนต่าง ๆ ตลอดจนประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายในการแก้ไขปัญหา ปลดล็อกข้อจำกัดต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรค

รวมทั้งในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับนโยบายไปดำเนินการหลายเรื่อง จึงขอให้ทุกส่วนราชการดำเนินนโยบายอย่างเหมาะสม รวดเร็ว ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวหน้า ประชาชนทั่วประเทศมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมขอเป็นแรงใจให้หัวหน้าส่วนราชการฯ ทุกคนทำภารกิจตามหน้าที่ความรับผิดชอบให้สำเร็จลุล่วงตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำให้ทุกส่วนราชการให้ความสำคัญกับการแต่งตั้งโยกย้ายด้วยความเป็นธรรมซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างมาก โดยยืนยันจะพยายามให้ความเป็นธรรมให้มากที่สุด และขอความร่วมมือกับหัวหน้าส่วนราชการฯ ทุกคนช่วยกันดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง

ภายหลังการประชุมฯ นายกรัฐมนตรีได้มอบของที่ระลึกแก่หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ที่ครบเกษียณอายุราชการ ประจำปี 2566 พร้อมร่วมรับประทานหารกลางวันกับคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าด้วย

สำหรับหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าที่ครบเกษียณอายุราชการ ประจำปี 2566 มีจำนวน 10 ราย ประกอบด้วย 1) นายธนากร บัวรัษฏ์ ผู้อานวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ 2) พลเอก สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ 3) นายสิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 4) นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน 5) นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน 6) นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 7) นายปวัตร์ นวะมะรัตน เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 8) พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 9) พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 10) นายขจิต ชัชวานิตย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร