

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ส.ค.67) มีรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ถึงความคืบหน้าในการฟอร์ม คณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านเดิม
โดยหลังจาก นายทักษิณ ชินวัตร บิดา และแกนนำของพรรคเพื่อไทย ได้ส่งสัญญาณลักษณะไฟเขียว ให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เข้าร่วมรัฐบาล โดยอ้างยึดดีลเดิม เพื่อรักษาคำพูดที่เคยให้ไว้กับนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในช่วงการตั้งรัฐบาลเพื่อไทย ยุคนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ฮ่องกง
โดยนายเดชอิศม์ เคยเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยเดิม และเคยลงสมัคร สส.สงขลา ในนามพรรคไทยรักไทย และทั้งเคยนำ 21 สส. ประชาธิปัตย์ โหวตสนับสนุนนายเศรษฐา ให้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี สวนมติพรรค จนทำให้ภายในพรรคแตกเป็น 2 ขั้ว
นั้นคือ กลุ่มผู้บริหารพรรคปัจจุบัน และกลุ่มอดีตหัวหน้าพรรคที่มี 4 เสียง โดยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร(กก.บห.) พรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 67 ที่ผ่านมา
โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคฯ ได้มีมติมอบอำนาจให้ หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค มีอำนาจเต็มในการเจรจา รวมถึงอำนาจตัดสินใจ ในการเข้าร่วมรัฐบาล ในกรณีที่มีการเชิญพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล
ทั้งนี้ ตลอดช่วง 2 วันที่ผ่านมา นายเดชอิศม์ ได้ประสานพูดคุยผ่านคนใกล้ชิด นายทักษิณ ว่า พร้อมที่จะเข้าร่วมรัฐบาลตามดีลเดิม และขอให้มีเทียบเชิญมาอย่างเป็นทางการ เพื่อสามารถชี้แจงสังคม และมวลสมาชิก ผู้สนับสนุนพรรคได้ ต่อไป
ทั้งนี้ เดิมทีในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ มีความประสงค์จะขอตำแหน่ง รมว.เกษตรฯ และ รมช. มหาดไทย แต่คาดว่าเมื่อมีการเกลี่ยตำแหน่งรัฐมนตรี กับพรรคร่วมรัฐบาลเดิม จะมีการสลับสับเปลี่ยนกระทรวง จึงมีการสลับเก้าอี้รัฐมนตรีใหม่ คงจะไม่ได้เก้าอี้รัฐมนตรีตามที่ต้องการ
อีกทั้งยิ่งเกิดปัญหาขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในการดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค กับกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ในการส่งรายชื่อว่าที่รัฐมนตรี ซ้ำซ้อนจาก 2 กลุ่ม จึงต้องรอความชัดเจน ในการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐ
โดยเน้นถึงด้านจริยธรรมด้วย แต่จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีการส่งเทียบเชิญ ให้พรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด และหากมีการส่งเทียบเชิญเข้าร่วมรัฐบาลจริง
ตามข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ระบุชัดเจนว่า จะต้องมีการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรค และสส.ของพรรคฯ เพื่อมีมติร่วมกันในนามพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่อย่างไร