นายกรัฐมนตรียันภายในไตรมาส 4 ปีนี้ จะพักหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย

นายกรัฐมนตรียันภายในไตรมาส 4 ปีนี้ จะพักหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ฟื้นฟูจิตใจของเกษตรกร พรุ่งนี้(13ก.ย.)จะนำเรื่องเข้าครม.

  • ปรับเปลี่ยนโครงสร้างการปลูก
  • ผลิตสิ่งที่ตลาดโลกต้องการในปริมาณที่เหมาะสม

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ชี้แจงในการอภิปรายแถลงนโยบายของรัฐบาลว่า เรื่องการการพักหนี้เกษตร รัฐบาลตระหนักดีถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรทุกคน นอกจากปัญหาปากท้องแล้ว เรื่องการเกษตรเป็นเรื่องสำคัญ โดยพรุ่งนี้(13ก.ย.)ในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกจะมีเรื่องพักหนี้นำเข้าสู่ครม. โดยรัฐบาลมีแนวทางดำเนินการเร่งด่วน มีเป้าหมายที่จะทำให้ได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ จะพักหนี้ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย โดยย้ำว่าจะทำการพักหนี้ พร้อมแผนการสร้างรายได้ ปรับเปลี่ยนโครงสร้างการปลูก ผลิตสิ่งที่ตลาดโลกต้องการในปริมาณที่เหมาะสม พร้อมตระหนักถึงภาวะโลกเดือด (Global Boiling) จึงเตรียมพร้อมนำความรู้และเทคโนโลยีเข้ามาใช้

การพักเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นการฟื้นฟูจิตใจของเกษตรกร เพื่อให้มีกำลัง แรงใจ แรงกายในการทำมาหากิน สร้างรายได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี โดยที่ในอนาคตจะไม่เสียวัฒนธรรมทางด้านการเงินการคลัง เช่น การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน การปลูกยาง ซึ่งถ้าใช้ปุ๋ยในจุดที่ถูกต้อง จะลดจำนวนปุ๋ยที่ใช้ และเพิ่มผลผลิตได้อย่างมาก เข้ากับหลักของรัฐบาลในการการใช้เกษตรแม่นยำเข้ามาเพื่อช่วยเกษตร เพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายจากการใช้ปุ๋ยเคมีมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ สำหรับเรื่องการใช้ Data มีความจำเป็นที่ต้องถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกร เพื่อให้สามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ต้องทำควบคู่ไปกับการพัฒนาความรู้ให้กับเกษตรกรทั่วไป

ขณะที่การอภิปรายเรื่องปัญหาการนำเข้าหมูเถื่อน ได้รับฟังปัญหานี้มาแล้วในหลายพื้นที่ และได้ประสานกับอธิบดีกรมศุลกากร โดยในวันนี้(12ก.ย.)จะได้เชิญเจ้าหน้าที่มาพูดคุยและรับทราบข้อมูล เพื่อหาแผนการดำเนินงานสั่งการออกมาให้ได้โดยเร็วที่สุด

ด้านรายได้ของครูและข้าราชการ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการดูแลพี่น้องประชาชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปข้างหน้า และจะได้ดูแลรายได้ให้เหมาะสมกับงบประมาณควบคู่กับการรักษาวินัยการเงินการคลัง