

“สรวงศ์ เทียนทอง” นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาวันแรก 16 ก.ย.67 ยัน “นายกฯ อิ๊งค์” มอบหมายนำไทยกลับมาเป็นเสือเศรษฐกิจอาเซียน ลั่นเดินหน้าท่องเที่ยวแผนเร่งด่วนกับระยะยาว 7 นโยบาย สานต่อฟรีวีซ่า เมืองน่าเที่ยว ซอฟท์ พาวเวอร์ ทัวร์สุขภาพ ทัวร์กีฬา เรือสำราญ โลว์คาร์บอน แก้ MOU ล้าสมัย

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เข้าปฏิบัติหน้าที่ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2567 เป็นต้นไป โดยได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรี “นางสาวแพทองธาร ชินวัตร” ให้เข้ามาดูกระทรวงสำคัญแห่งนี้ พร้อมทั้งได้พูดคุยโดยตรงจะทำให้ดีที่สุด ทำให้ประเทศไทยกลับมาเป็นเสือเศรษฐกิจอาเซียนอีกตัวให้ให้ได้ เพราะประเทศเจอมาหลายอย่างอย่างช่วงโควิด จึงมีแผนระยะเร่งด่วนและระยะยาว ที่จะพัฒนาศักยภาพของประเทศในฐานะศูนย์กลางการท่องเที่ยวและกีฬาระดับนานาชาติด้วยนโยบายสำคัญผลักดันการท่องเที่ยวและกีฬาไทยให้ก้าวสู่ระดับโลก
โดยประกาศจะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหลายมิติ สร้างเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างโอกาสให้ประเทศไทยสามารถเติบโตและปรับตัวในยุคแห่งความท้าทาย ด้วยไฮไลต์การทำวันแรก 7 นโยบาย ประกอบด้วย
นโยบายที่ 1 ทำต่อเรื่องมาตรกาเน้นอำนวยความสะดวกการตรวจลงตราสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มต่าง ๆ หรือ Ease of Traveling
นโยบายที่ 2 ยกระดับเมืองน่าเที่ยวกระจายรายได้นักท่องเที่ยวไปยังจังหวัดท่องเที่ยวรองผ่านแคมเปญต่าง ๆ ผนวกเข้ากับมุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแบบใหม่ช่วยสร้างเศรษฐกิจชุมชน
นโยบายที่ 3 ยังเน้นผลักดันเสน่ห์ไทยหรือ ซอฟท์ พาวเวอร์ของประเทศไทย
นโยบายที่ 4 สนับสนุนการจัดแข่งขันกีฬาระดับโลกในไทย (sport Tourism) ซึ่งจะกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้มหาศาลเข้าประเทศ
นโยบายที่ 5 ผลักกันการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (wellness tourism) ตั้งเป้าหมายจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการดูแลสุขภาพและผู้สูงอายุ ด้วยจุดแข็งของประเทศไทยมีความได้เปรียบบริการที่เป็นเลิศ
นโยบายที่ 6 ปลุกจิตสำนึกการท่องเที่ยวโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมตามรูปแบบโลกยุคใหม่ต้องทำการท่องเที่ยวลดคาร์บอน หรือ low Carbon tourism อย่างเป็นรูปธรรม ร่วมกสนับสนุนโรงแรมระดับ 5 ดาว ตื่นตัวทำเรื่องนี้ลดคาร์บอน์เพิ่มมากขึ้น
นโยบายที่ 7 พิจารณาปรับปรุงข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ที่ล้าสมัยด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศกับองค์สำคัญ ยกระดับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และส่งเสริมการท่องเที่ยวเรือสำราญ ซึ่งเป็นกลุ่มมีศักยภาพการใช้จ่ายเงินสูงเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวภาพรวม

นายสรวงศ์ กล่าวว่า ทางด้านการกีฬามุ่งพัฒนาศักยภาพนักกีฬาไทยทุกระดับ ตั้งแต่กีฬาพื้นฐานและมวลชน เพื่อสร้างสุขภาพที่ดีและส่งเสริมนักกีฬาสู่ความเป็นเลิศ โดยนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ เช่น พัฒนาร่างกายสร้างวินัยให้นักกีฬา เตรียมความพร้อมจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก เช่น อาเซีย พารา เกมส์ และซีเกมส์ 2025 พร้อมกับสนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวกให้นักกีฬาระดับเยาวชนที่กำลังเติบโต พิจารณามาตรการช่วยเหลือเรื่องการเดินทางไปแข่งต่างประเทศ เช่น ทำหนังสือเดินทางทั้งพาสปอร์ตพิเศษหรือวีซ่านักกีฬา
เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ท่องเที่ยวลุ้น 3 เดือนท้าย ปั๊มรายได้ต่างชาติเพิ่ม 1 ล้านล้าน