ททท. เตรียมเสนอแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวของไทยในไตรมาสสุดท้ายและปี 2568 ต่อ นายกฯ ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ เผย นายกฯ มอบหมายให้ทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ชี้นายกฯจะดูเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกน.ส.ฐาปนีย์เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)เข้าหารือแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวของไทยเมื่อเช้าวันนี้
นางฐาปนีย์ เปิดเผยภายหลังพบนายกรัฐมนตรี ว่า นายกฯได้สอบถามถึงสถานการณ์การท่องเที่ยว พร้อมหารือถึงการเตรียมความพร้อม เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในปีหน้า โดย ททท. จะนำเรื่องนี้เสนอ นายกรัฐมนตรีได้อีกครั้งภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ โดยนายกฯจะเป็นประธานรับทราบแผนงานนี้และติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวด้วยตนเอง “
เสนอรัฐบาลพิจารณาเรื่องพัฒนาระบบการจ่ายเงิน Cashless Society
ททท.มีการจัดทำภาพรวมการท่องเที่ยวในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ การจัดอีเวนท์หรือกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการอำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยว ว่าสิ่งใดที่นักท่องเที่ยวมีความต้องการเพิ่มเติม นอกเหนือจากวีซ่าฟรีที่ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว โดยประเด็นที่ต้องการให้รัฐบาลพิจารณาคือเรื่อง การจ่ายเงิน Cashless Society หรือ สังคมไร้เงินสด เพราะถือว่าเป็นธุรกิจของทุกชาติ ที่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาต้องการใช้ระบบจ่ายเงินที่สามารถเชื่อมต่อกับประเทศต้นทางได้ ซึ่งในประเด็นนี้นายกฯรับปากจะไปพิจารณาให้”
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปีโดยจะต้องเป็นการกระตุ้นในทุกพื้นที่ สำหรับภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีดัชนีชี้วัด ไม่ว่าจะเป็น การจัดอันดับต่างๆที่ต่างชาติดำเนินการเป็นดัชนีความนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก นอกจากนี้ นายกฯ ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยและความมั่นใจในการเดินทางมาท่องเที่ยว
นายกฯย้ำเรื่องเป้าหมายท่องเที่ยวต้องทำให้ได้
ผู้ว่าฯ ททท. กล่าวด้วยว่า นายกฯย้ำเรื่องเป้าหมายท่องเที่ยวที่รัฐบาลเคยตั้งไว้ ทั้งรายได้ จำนวนนักท่องเที่ยว ต้องพยายามทำให้ได้ และขณะนี้กำลังเข้าสู่ช่วง high season ซึ่งต้องรอดูจำนวนตัวเลขจริง ในเดือนต.ค.นี้ จะมีสายการบินที่เป็นปฐมฤกษ์บินเข้ามายังไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งในการสนับสนุนทำให้นักท่องเที่ยวจากใหม่ๆ เดินทางเข้ามา โดยเรื่องนี้นายกฯให้ความสำคัญอย่างมาก จำนวนนักท่องเที่ยว น่าจะเพิ่มขึ้นได้ แต่การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวมีการรัดเข็มขัดมากขึ้นในหลายประเทศ
คาดตัวเลขนักท่องเที่ยวเป็นไปตามเป้า
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยใกล้ 25 ล้านคนแล้ว ดังนั้นเหลือเวลาอีก3 เดือนครึ่ง ซึ่งอยู่ในช่วงไฮซีซั่น
ททท.อยากให้เป็นไปตามที่ตั้งเป้า 30-35 ล้านคน โดยกลุ่มตลาดการท่องเที่ยวหลัก ที่มุ่งเน้นอยู่ คือ ตลาดจีน อินเดีย เกาหลีมาเลเซีย รัสเซีย ถือเป็นกลุ่มดาวฤกษ์เข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมากขณะที่กลุ่มตลาดดาวรุ่ง หรือตลาด นักท่องเที่ยวใหม่ จำเป็นต้องขยายเพิ่ม โดยเฉพาะในกลุ่มตลาด CIS ประกอบด้วยคาซัคสถานอุซเบกิสถาน ซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : กรมท่าอากาศยาน ชูยกระดับคุณภาพสนามบินเมืองรองกระตุ้นท่องเที่ยว
