“แพทองธาร” จังหวะพิเศษแบกภารกิจเพื่อใคร

แพทองธาร ชินวัตร
“แพทองธาร” จังหวะพิเศษแบกภารกิจเพื่อใคร


บันทึกประวัติศาสตร์ตั้งแต่ต้นถึงกลางสัปดาห์สิงหา 67 การเมืองไทยเซ็ตซีโร เพื่อเดินเครื่องเต็มกำลังสูบ!!!

เริ่มต้นด้วยการยุบพรรคก้าวไกล “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ตัวชูโรงเรียกกระแสเก็บข้าวของออกจากสภาฯ และสวมบทเป็นผู้แทนนอกสภาฯ แทน ส่วนสส.ที่ยังรอดชีวิตก็ยังต้องรอดาบสองจาก ป.ป.ช. ฟัน 44 ส.ส.อดีตพรรคก้าวไกล กรณีลงชื่อแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112

จากนั้นเป็นคิวพา “เศรษฐา ทวีสิน” ลงจากหลังเสือ ด้วยวิธีการไม่ค่อยซอฟต์เท่าไหร่ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยฟ้าผ่ากลางทำเนียบให้ “เศรษฐา” หลุดจากนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ อดีตนายกฯยังได้ของแถมจาก “เสือปืนไว” เจ้าภาพร่วมสหบาทายื่นร้องต่อศาลขอให้ฟันจริยธรรมต่อเนื่อง เนื่องจากต้นเรื่องอย่างศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ว่า “นายกฯนิด” แต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีทั้งที่รู้ว่าไม่มีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นผู้ไม่มีจริยธรรม

จังหวะพิเศษกับนายกฯคนที่31

นายกรัฐมนตรีประเทศไทย คนที่31
นายกรัฐมนตรีประเทศไทย คนที่31 ที่อายุน้อยที่สุด “แพทองธาร ชินวัตร”

นี่แหละ…การเมืองแบบไทยๆ และแล้วก็ถึงเวลาชู “นายกคนใหม่” นายกรัฐมนตรีประเทศไทย คนที่31 ที่อายุน้อยที่สุด “แพทองธาร ชินวัตร” ก้าวสู่แถวหน้าประเทศในวัย37 ย่าง 38 ปี เป็นที่กล่าวขานของสังคมโลก เพราะเธออยู่ใน TOP10 ของโลกที่ผู้นำประเทศอายุน้อยที่สุด

ความพิเศษของ 18 สิงหา เธอเข้าพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งไม่พอ ยังมีความพิเศษอีกหนึ่งอย่าง เป็นจังหวะเดียวกับที่ ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพ่อได้รับอภัยโทษ พ้นจากความผิดในคดีทุจริต 3 คดี โทษจำคุก 8 ปี ด้วย

ทว่า ชะตากรรมของ “ทักษิณ” ก็ยังคงไม่พ้นคำว่า “จำเลย” เพราะยังมีคดีมาตรา112 จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อพาดพิงสถาบันกษัตริย์ เมื่อปี58 ซึ่งวันที่ 19 สิงหา ศาลอาญานัดตรวจพยานสองฝั่งคดีดังกล่าว ซึ่ง “ทักษิณ” จะต้องไปด้วยตนเอง

อย่างว่าของฟรีไม่มีในโลกเป็นคำพูดที่จริงแท้แน่นอน อยากได้อะไรต้องลงมือทำแล้วสวรรค์จะเมตตาสงสาร หลังจากนี้ “แพทองธาร” ในฐานะนายกรัฐมนตรี ต้องทำงานอย่างหนัก บริหารภาระประเทศและครอบครัว เพื่อพิสูจน์ฝีมือและเป้าหมายที่ตั้งไว้

แต่หาก นายกฯอิ๊งค์ ปราชัยหรือกระแสไม่ดีอย่างที่คาดไว้ ก็ต้องยอมรับผลแห่งการกระทำและว่ากันไปตามเนื้อผ้า บิ๊กดีลที่ว่ากันว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีอาจไม่เป็นดั่งใจปรารถนา

ขอให้จับตาไปที่การกลับเข้าประเทศของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และเป็นอาปูของนายกฯอิ๊งค์ เพื่อรับโทษในคดีละเว้นในหน้าที่ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 5ปี

ฉะนั้น นับจากวันนี้เป็นต้นไป ต้องคิกอ๊อฟทำคะแนนกับประชาชนให้มากที่สุด “ให้มีกิน มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี” เหมือนที่หาเสียงไว้

ล้มโครงการเรือธง..ป้องกันคดีเล่นงานย้อนหลัง

แต่ดูเหมือนว่าหนทางนี้จะไม่ได้ปูด้วยกลีบกุหลาบ เพราะล่าสุด มีข่าวลือว่าทั้ง ทักษิณและแพทองธารคิดจะพับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแจก 1หมื่นบาท

ขืนเป็นจริงขึ้นมา แค่โครงการนี้เพียงโครงการเดียวก็พอจะทำให้รัฐบาลพังพินาศ มากกว่าปังปุริเย้เหมือนที่เคยมโนไว้ก่อนหาเสียง ซึ่งดูจากที่ “แพทองธาร” ให้สัมภาษณ์มีท่าทีเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิม ฉะนั้น ข่าวลือที่ว่าอาจกลายเป็นเรื่องจริง!!!

ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมามีเหตุเกิดขึ้นมากมาย สภาพเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป จึงต้องมีการศึกษา และรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมและต้องอยู่ภายใต้พ...วินัยการเงินการคลัง ซึ่งจะต้องทำต่อไปแต่ในเนื้อหารายละเอียดจะต้องมีความชัดเจน และจะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นต่อเนื่อง เพราะเป้าหมายคือการกระตุ้นเศรษฐกิจฉะนั้นความตั้งใจนี้ยังต้องอยู่แน่นอน นายกฯคนที่31 ชี้แจงถึงการเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ตโครงการเรือธงของรัฐบาลเพื่อไทย

ประกอบกับ “แพทองธาร” ก็ยอมรับว่าไม่มีใครอยากโดนคดี อย่างคุณพ่อและคุณอา ซึ่งทั้ง 2 คนก็ไม่ได้อยากโดนแบบนี้ จึงตั้งใจจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ถูกต้องที่สุด เราต้องมองที่เป้าหมายหากนั่งกังวลทุกอย่างก็คงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ดังนั้นจะทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้มีคดี

ปรับครม.-แถลงนโยบายต่อรัฐสภา

สิ่งที่น่าสนใจต่อไปนี้ คือ การปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งตอนนี้ยังคงฝุ่นตลบมีหลากหลายสูตร แต่ที่แน่ๆและข่าวตรงกันคือ หากต้องการปรับเปลี่ยนคนให้แต่ละพรรคไปจัดการกันเอง ไม่มีคำสั่งพิเศษจากพรรคแกนนำรัฐบาลว่าห้ามคนนั้น ห้ามคนนี้ ดังนั้น อดใจไม่นานเกินรอ ได้เห็นโฉมหน้าครม.อุ๊งอิ๊งแน่นอน

นโยบายรัฐบาล
การแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องสำคัญต้องติดตาม คือการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ว่าจะดำเนินการบริหารประเทศอย่างไร??? ซึ่งคาดการว่า “แพทองธาร” จะแถลงนโยบายได้ในช่วงเดือนกันยายน

โดยเฉพาะความเป็นไปได้ในการเดินหน้าดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต  ท่ามกลางเสียงรุมประท้วงและเตือนว่าไม่คุ้มค่า ลงทุนก้อนโตยอมเป็นหนี้ แต่กระตุ้นเศรษฐกิจได้น้อย อีกทั้งสุ่มเสี่ยงขัดต่อพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังด้วย

อย่างไรก็ตาม เสียงจากสส.ภายในพรรคเพื่อไทยอยากให้ผลักดันการจัดการเก็บกวาดยาเสพติด ซึ่งประเด็นนี้เคยถึงหู “อดีตนายกฯเศรษฐา ทวีสิน”แล้ว แต่ยังแอคชั่นน้อยและยาเสพติดยังคงเกลื่อนเมือง จึงต้องดูว่ารัฐบาลยุค “แพทองธาร” จะจริงจังกับปัญหาดังกล่าวมากน้อย เพียงใด รวมถึงนโยบายด้านสังคมการดูแลเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยบอกถึงเหตุผลในการตัดสินใจเล่นการเมือง ว่าในฐานะเป็นแม่คนหนึ่งที่มีลูกอยากสร้างอนาคตประเทศไทย.

ทำเนียบรัฐบาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : นายกฯ ประกาศสานต่อนโยบายเศรษฐกิจ