“เศรษฐา”หวังรัฐบาลชุดนี้จะพักหนี้เป็นครั้งสุดท้าย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “อนาคตเศรษฐกิจไทย”

“เศรษฐา”หวังรัฐบาลชุดนี้จะพักหนี้เป็นครั้งสุดท้าย ดันเศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ และการส่งเสริมการลงทุน

  • ​รวมถึงการนำจุดเด่นด้านต่าง ๆ ของประเทศ
  • มาสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ
  • มั่นใจมากเทสลามาลงทุนในไทยใช้ที่ดิน 2,000ไร่

วันนี้ (7 ธันวาคม 2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “อนาคตเศรษฐกิจไทย” โดยมีคณะผู้บริหารสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ผู้บริหารคณะรัฐประศาสนศาสตร์ ผู้บริหารและคณาจารย์หลักสูตรวิทยาการจัดการสำหรับนักบริหารระดับสูงเข้าร่วมรับฟัง

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การปาฐกถาวันนี้ต้องการจะสื่อสารในสิ่งที่จับต้องได้ และทุกคนเข้าใจง่าย ไม่เป็นการวาดฝันที่สวยหรูเกินเหตุ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 10 ปี ถือว่าเป็นช่วงที่ยากลำบาก และทุกวันนี้ก็ยากลำบากมากกว่าเดิม ด้วยสาเหตุหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากภายในและภายนอกประเทศ รวมถึงปัญหาความไม่สงบจากการสู้รบของยูเครนและรัสเซีย และการสู้รบของอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสที่มีท่าทีว่าจะยืดเยื้อยาวนาน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “อนาคตเศรษฐกิจไทย”

ในช่วงเวลาเกือบ 3 เดือน ที่เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับตั้งแต่วันที่รัฐบาลแถลงนโยบาย รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมากในการดำเนินการในระยะเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือประชาชนในหลายกลุ่ม โดยนโยบายที่จะดำเนินการในระยะเร่งด่วน คือ กระตุ้นเศรษฐกิจ การลดค่าครองชีพและเพิ่มรายได้ ทั้งเกษตรกร พ่อค้าแม่ค้า รวมทั้งการช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้สามารถฟื้นตัว และกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “อนาคตเศรษฐกิจไทย”

ส่วนในระยะกลางและระยะยาว รัฐบาลได้วางเป้าหมายไปสู่อนาคต โดยได้วางรากฐานและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ให้กับประเทศ การทลายข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ปิดกั้น การพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ รวมทั้งการสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือ Soft Power ของประเทศ การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ การปฏิรูปการศึกษา

รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่พี่น้องประชาชน และดำเนินการให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และเสริมความแข็งแกร่งให้กับประเทศที่ครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว และเป็นประเทศที่มีศักยภาพ พร้อมเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค

นโยบายเร่งด่วนที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น คือการเพิ่มเม็ดเงินให้หมุนเวียนในชุมชนเพิ่มมากขึ้น ลดภาระค่าครองชีพ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ยังมีนักการเมืองฝั่งตรงข้ามโจมตีว่า เป็นนโยบายหาเสียงหวังผลทางการเมือง เป็นการซื้อเสียงเพื่อเตรียมตัวเลือกตั้งครั้งต่อไป ขอยืนยันว่าการดำเนินนโยบายไม่ใช่การหาเสียงหรือหวังผลทางการเมือง แต่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกร ที่ผ่านมา 9 ปี มีการพักหนี้ให้เกษตรกรไปแล้ว 13 ครั้ง รัฐบาลชุดนี้ตั้งใจว่าจะพักหนี้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย แต่ก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าจะสามารถทำได้ตามที่ตั้งใจไว้

นายเศรษฐากล่าวด้วยว่า มั่นใจว่าบริษัทเทสลา จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยแน่นอน หลังจากที่พาผู้บริหารบริษัทเทสลา ไปดูเรื่อง Soft Power ในงานยี่เป็งที่เชียงใหม่  โดยบริษัทเทสลาต้องการที่ดินประมาณ 2,000 ไร่ เพื่อสร้างโรงงานซัพพลายเชนทั้งหมด