นายกฯ แพทองธาร สั่งรองนายกฯ พร้อมทีมมหาดไทยลงพื้นที่ ด้านกลาโหมตั้ง ศอ.บต.เป็น ศปช.ส่วนหน้าภาคใต้ทำงานร่วมกับศปช.ส่วนกลางระดมความช่วยเหลือเข้าพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้หลังเผชิญน้ำท่วมหนัก
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะโฆษก ศปช. เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงใยถึงประชาชนทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ได้แก่ จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลาโดยได้มอบหมายให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นางสาวธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ จ.นราธิวาสติดตามสถานการณ์และอำนวยการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
“แม้ว่าขณะนี้ท่านนายกรัฐมนตรีมีภารกิจในการประชุมครม.สัญจรที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ท่านได้ฝากความห่วงใยผ่านรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูแลประชาชนทันที เนื่องจากขณะนี้ในพื้นที่ 4 จังหวัดเกิดน้ำท่วมหนักในหลายจุด อีกทั้งในช่วง 2 วันนี้กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่ายังมีแนวโน้มที่จะมีฝนตกหนักเข้ามาเติมในพื้นที่ จึงต้องสั่งการให้ระดมความช่วยเหลือจากนอกพื้นที่เข้ามาเพิ่มเติมโดยต้องมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ” นายจิรายุ กล่าว
มอบหมายให้พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์
ด้าน นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้พล.อ.ณัฐพลนาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และสั่งการให้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดตั้งศูนย์ประสานงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีบทบาทเป็น ศปช.ส่วนหน้าภาคใต้เพื่อเป็นแกนกลางติดตามสถานการณ์และประสานความช่วยเหลือเข้าไปยังพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
“ขณะนี้ทุกภาคส่วนได้ระดมความช่วยเหลือทุกรูปแบบเข้าพื้นที่เบื้องต้นกองทัพบกได้สั่งการกองทัพภาคที่ 4 พร้อมจิตอาสาพระราชทานลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้จัดสรรเรือ รถบรรทุกขนย้ายผู้ประสบภัย เครื่องสูบน้ำ พร้อมเครื่องมือ 1,264 หน่วยพร้อมเฮลิคอปเตอร์ KA-32 เข้าช่วยเหลือประชาชน อีกทั้งยังระดมเครื่องจักรกลสาธารณภัยจากพื้นที่ที่ไม่มีสถานการณ์ เช่น ปภ.เขต2 สุพรรณบุรี เขต 3 ปราจีนบุรี เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ และเขต 8 กำแพงเพชร เข้าสนับสนุนการปฏิบัติงานช่วยชาวใต้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย” นางสาวศศิกานต์ กล่าว ทั้งนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รายงานพื้นที่ประสบอุทกภัยใน 7 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลาปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ สตูล รวม 68 อำเภอ 452 ตำบล2,831 หมู่บ้าน มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบ 240,007 ครัวเรือน โดยมีผู้ประสบภัยอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว 91 แห่ง ใน 4 จังหวัดรวม 4,380 คน ซึ่งได้มีการประกาศแจ้งเตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงสูงทำให้สามารถอพยพและเคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบางได้อย่างทันท่วงที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ครม.สัญจรเชียงใหม่ เห็นชอบมาตรการภาษีบรรเทาภาระผู้ประสบอุทกภัย