นายกฯ สั่ง ภูเก็ต เร่งทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมนักท่องเที่ยว ไฮซีซั่น ก.ย.67-ก.พ.68 หลังพบสัญญาณปีนี้จะโตแซงปี’62 ถึง 1.2 เท่า AOT ยันตัวเลขเดินทางพุ่ง 6 แสนคน/เดือน เน้นเคลียร์บริการกระเป๋ารวดเร็ว ใช้ระบบอัตโนมัติตรวจเอกสาร“ตำรวจภูธรภาค8” นำทีมป้องกันอาชญากรรม ทัพเรือเข้มความปลอดภัยเที่ยวทะเล ผู้ว่าฯ ลุยตรวจสอบแรงงานต่างด้าว
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ใช้ช่วงวันหยุดพักผ่อนเดินทางไปภูเก็ตพร้อมกับประชุมหน่วยงานทุกภาคส่วนเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวเข้าสู่ภูเก็ตฤดูเดินทางหรือไฮซีซั่นระหว่างเดือนกันยายน 2567 -กุมภาพันธ์ 2568 โดยได้กำชับ 4 เรื่อง คือ การอำนวยความสะดวก การป้องกันปัญหาอาชญากรรม มาตการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และความปลอดภัยการท่องเที่ยวทางทะเล โดยมีผู้บริหารหน่วยงานเข้าร่วมด้วยครบทั้งจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจน้ำ กองทัพเรือ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต บริษัท การท่าอากาศยานจำกัด (มหาชน) “AOT” และหน่วยงานความมั่นคง
เนื่องจากปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าภูเก็ตสูงกว่าก่อนเกิดขึ้นโควิด มีสัญญาณที่ดีไฮซีซั่นปี 2567 นักท่องเที่ยวจะเพิ่มมากกว่า 1.2 เท่าของปี 2562 ดังนั้นจึงขอให้ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อม และหาแนวทางป้องกันอาชญากรรมที่จะเกิดกับนักท่องเที่ยว ตามที่ได้หารือฝ่ายต่าง ๆ เพิ่มอาสาสมัครชาติต่าง ๆ ช่วยอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวต่างชาติ การท่องเที่ยวทางเรือ การเตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือกรณีมีผู้ประสบภัย การเพิ่มความรวดเร็วลำเลียงกระเป๋าของผู้โดยสารที่สนามบิน รวมถึงเพิ่มความเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยสถานบริการซึ่งตอนนี้มีนโยบายเปิดได้ถึงตี 4 และการตรวจตราประชากรแฝงที่เข้ามาทำงานในภูเก็ต รวมถึงนักท่องเที่ยวที่อยู่แบบลองสเตย์
นายกฯ เศรษฐาได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องที่ภูเก็ตพร้อมสั่งการ โดยเฉพาะ “ตำรวจ” ขอให้เตรียมความพร้อมรับมือการให้บริการนักท่องเที่ยวป้องกันปัญหาอาชญากรรมที่อาจจะเกิดจากนักท่องเที่ยวกระทำความผิดด้วยกันเอง เพราะขณะนี้ถึงจะยังไม่ถึงไฮซีซั่นก็มีการเดินทางเพิ่มมากขึ้นจำนวนมาก ตามที่ ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” รายงานสถิติเดือนสิงหาคมนี้มีเที่ยวบินตรงเข้าสู่ท่าอากาศยานภูเก็ต วันละ 20-30 เที่ยว แนวโน้มช่วงไฮซีซั่นปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้าออกสนามบินวันละ 14,000 -15,000 คน หรือเฉลี่ยเดือนละ 600,000 คน สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันกันปีก่อนกว่า 100% หรือเกิน 1.2 เท่า
นายกรัฐมนตรีจึงสั่งการให้ AOT ดูแลเรื่องการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ เน้น 2 เรื่องสำคัญคือ เรื่องที่ 1 บริการลำเลียงกระเป๋าให้ผู้โดยสารไม่ต้องรอนานเกินมาตรฐานสากล เรื่องที่ 2 ใช้ระบบตรวจสอบเอกสารเดินทางแบบอัตโนมัติ เพื่อแบ่งเบาภาระตำรวจตรวจคนเข้าเมืองบางส่วนได้ และยังสามารถลดปัญหาการรอหน้าด่านในช่วงนักท่องเที่ยวหนาแน่นจะใช้เวลาต้องไม่เกิน 30 นาที
ทางด้าน “ตำรวจภูธรภาค 8” รายงานนายกรัฐมนตรีถึง 2 มาตราการหลัก ด้านเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว และป้องกันปัญหาอาชญากรรม โดยประสานไปยังกงสุลประเทศต่าง ๆ ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกจังหวัดภูเก็ตจำนวนมากทั้ง รัสเซีย จีน อินเดีย ออสเตรเลีย อังกฤษ ประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวีย ใช้วิธีเพิ่มอาสาสมัครชาติต่าง ๆ เข้ามาร่วมอำนวยความสะดวกด้วยการใช้ความเชี่ยวชาญแต่ละภาษาสื่อสารได้เป็นอย่างดี ตามที่นายกรัฐมนตรีกำชับให้เฝ้าระวังปัญหาอาชญากรรมและยาเสพติด หลังจากรัฐบาลมีนโยบายให้สถานบริการเปิดได้ถึงตี 4 ปัจจุบันผลตอบรับดีและไม่มีปัญหาอาชญากรรมเกิดขึ้น
ส่วน “ทัพเรือภาคที่ 3” นายกรัฐมนตรีฝากกองทัพเรือให้ช่วยตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยทางทะเลด้านการท่องเที่ยวธรรมชาติ กรณีปัญหาเรือขนส่งผู้โดยสารช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล และช่วยเหลือนักท่องเที่ยวผู้ประสบภัย ตลอดจนช่วยเหลือตรวจสอบเรือสำราญขนาดใหญ่ที่เข้ามาจอดและพักเพื่อท่องเที่ยวในภูเก็ตด้วย
นายกฯ เศรษฐา กล่าวว่าได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตตรวจสอบเรื่องประชากรแฝง กลุ่มแรงงานต่างด้าวและเข้ามาทำงานภูเก็ต รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่เลือกพำนักอยู่ในภูเก็ตในระยะยาว ขอให้ประสานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบความถูกต้องทางกฎหมายป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดตามมาอย่างรัดกุมมากที่สุด
เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ททท. หนุน แอร์เอเชีย บินบาหลี-ภูเก็ตปี67 โกยกว่า 2.1 หมื่นล้าน