“ศิริกัญญา” อภิปรายงบปี67 เอาไปตัดถนนท่องเที่ยว 7,700 ล้านบาท

างสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส. พรรคก้าวไกล อภิปรายร่าง พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567

 ศิริกัญญา” อภิปรายงบปี67 เอาไปตัดถนนท่องเที่ยว 7,700 ล้านบาท ย้ำเศรษฐกิจไทยไม่ถึงขั้นวิกฤต ชี้หากรัฐบาล ทำดิจิทัลวอลเล็ตไม่สำเร็จ จะไม่มีเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

  • ยุทธศาสตร์สร้างความสามารถในการแข่งขัน วงเงิน 3.9 แสนล้านบาท
  • ร้อยละ 37 เป็นโครงการก่อสร้างถนนหรือสะพาน

นางสาวศิริกัญญา  ตันสกุล สส. พรรคก้าวไกล กล่าวอภิปรายร่าง พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ว่า ตามที่ นายเศรษฐา  ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ระบุว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทย ถึงขั้นวิกฤตนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลจากรายงานภาวะเศรษฐกิจและการคลัง ประจำปีงบประมาณ 2567 พบว่า ปี 2566 เศรษฐกิจไทยเติบโต ร้อยละ 2.5 และคาดการณ์ว่า ปี 2567 จะเติบโต ร้อยละ 3.2 เงินเฟ้ออยู่ในระดับปกติ และเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ทั้งปี 2566 และ 2567

ขณะที่เอกสารงบประมาณฉบับประชาชน ปีงบประมาณ 2567 จัดทำโดยสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ปี 2567 ไทยจะมีอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ขยายตัวที่ร้อยละ 5.4 คิดเป็นเงิน 19 ล้านล้านบาท ขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ ร้อยละ 2.2 ทั้งนี้ รัฐบาล ตั้งจัดทำแผนการคลังระยะปานกลางไว้ กรณีกู้ชดเชยขาดดุล ปี 2567 – 2570 ตั้งไว้ขาดดุลอยู่ที่ร้อยละ 3.4 – 3.6 จึงตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยที่ต้องการทำให้การจัดทำงบประมาณแบบสมดุลเหตุใดจึงต้องจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลดังกล่าว

สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพื่อแจกให้กับประชาชน 50 ล้านคน วงเงิน 500,000 ล้านบาท และจะเพิ่มเงินให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 100,000 ล้านบาท โดยระบุว่าจะใช้เงินจากการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เงินกู้ 500,000 ล้านบาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 อีก 100,000 ล้านบาท นั้น แต่ผลปรากฏว่า ร่างกฎหมายงบประมาณ ปี 2567 ไม่ได้ระบุถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตฯ และปรับลดเงินกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเหลือเพียง 15,000 ล้านบาทเท่านั้น

สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลยังไม่สามารถหางบประมาณมาเพิ่มเติมนโยบายใหม่ของรัฐบาลได้ และยังต้องลุ้นว่า รัฐบาลสามารถออก พ.ร.บ.เงินกู้ 500,000 ล้านบาท ได้หรือไม่ เพียงอย่างเดียวหรือไม่ และหากต้องทำทั้ง 2 นโยบาย อาจจะต้องออก พ.ร.บ.เงินกู้ สูงถึง 580,000 ล้านบาท จึงมีความเสี่ยงสูงมาก หากไม่สามารถออกกฎหมายเงินกู้ได้ ก็จะทำให้รัฐบาลไม่มีเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ

ขณะที่นโยบายผลักดันการท่องเที่ยวของรัฐบาล มีข้อสังเกตว่า ได้ตั้งงบประมาณตัดถนนเพื่อการท่องเที่ยวสูงถึง 7,700 ล้านบาท จากงบประมาณด้านการท่องเที่ยว 16,000 ล้านบาท ทั้งนี้เข้าใจว่าการตัดถนนนั้นมีส่วนช่วยให้นักท่องเที่ยวเดินทางถึงแหล่งท่องเที่ยวได้มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า การตัดถนนจะช่วยให้การท่องเที่ยวพัฒนาหรือเพิ่มค่าใช้จ่ายรายหัวของนักท่องเที่ยวได้ ขณะที่ งบประมาณของกระทรวงกลาโหม กลับเพิ่มขึ้น ร้อยละ 2 วงเงิน 198,320 ล้านบาท ต่างจากช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมา ทั้งวิกฤตต้มยำกุ้ง วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ และวิกฤติโควิด-19 ที่รัฐบาลไทยปรับลดงบประมาณของกระทรวงกลาโหมลดลงถึง ร้อยละ 21 ร้อยละ 10 และร้อยละ 5 ตามลำดับ สรุปแล้วการตั้งงบประมาณปี 2567 ของรัฐบาล เป็นการแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ จริงหรือไม่

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า การตั้งงบประมาณยุทธศาสตร์สร้างความสามารถในการแข่งขัน วงเงิน 393,518 ล้านบาทนั้น เป็นโครงการก่อสร้างถนนหรือสะพาน ร้อยละ 37 และโครงการก่อสร้างอาคาร/ที่ดิน/สำนักงาน ร้อยละ 15 ส่วนแผนงานสนับสนุนด้านความสามารถในการแข่งขัน วงเงิน 36,997.7 ล้านบาท เป็นการตั้งงบประมาณเพื่อใช้หนี้ธนาคารของรัฐ ถึงร้อยละ 40 ขณะที่แผนงานเกษตรสร้างมูลค่า วงเงิน 49,895 ล้านบาท เป็นการตั้งงบใช้หนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร( ธ.ก.ส.) ร้อยละ 80 ซึ่งเป็นการก่อหนี้ในโครงการของรัฐบาลในอดีต