
- “NIA-ม.แม่โจ้” ผนึกรัฐเอกชนปั้นสตาร์ทอัพหน้าใหม่ นักเรียน ศิษย์เก่า SME สู่ “เกษตรไบโอเทค”
- ทุ่มเปิดย่านนวัตกรรมเกษตรและอาหารแม่โจ้ ขึ้นชั้น “ซิลิคอนวัลเลย์นวัตกรรมเกษตรเมืองไทย” พลิกโฉมประเทศไฮเทคสุดๆ
ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เปิดเผยว่า NIA ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและเอกชน เปิดปีแรก โครงการ AgBioTech Incubation 2023 ตั้งเป้าพัฒนา “สตาร์ทอัพด้านการเกษตรที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชีวภาพ” รายใหม่ในระยะเริ่มต้น ทั้งทางด้านทักษะและความรู้นักศึกษา นักวิจัยภาครัฐ ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัย หรือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องการเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจเป็นสตาร์ทอัพ เริ่มตั้งแต่ระยะแนวคิดไอเดียเพื่อให้เข้าใจโจทย์ปัญหาการเกษตร และมีโอกาสนำแนวทางแก้ไขไปทดสอบความต้องการของภาคเกษตรอย่างแท้จริง เพื่อขยายธุรกิจระยะต่อไปแบบก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว

เนื่องจากสตาร์ทอัพด้านการเกษตรเป็นกำลังสำคัญเชื่อมโยงและร่วมสนับสนุนการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ นำมาประยุกต์ใช้เชิงลึกเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพแก้ไขปัญหาภาคเกษตรที่มีความซับซ้อนและหลากหลายได้อย่างแม่นยำช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและยกระดับภาคเกษตรได้อย่างยั่งยืน หลังจาก NIA กับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้จัดทำ “สมุดปกขาวการขับเคลื่อนพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพด้านการเกษตรของประเทศไทย” ขึ้นครั้งแรก ทำสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในระบบนิเวศ
ผลสำรวจพบว่ามีสตาร์ทอัพด้านเกษตรเพียง 53 บริษัท ปัจจุบันเริ่มมีสตาร์ทอัพรายใหม่เกิดต่อเนื่อง คาดมีเกือบ 70 บริษัท ส่วนสตาร์ทอัพด้านเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีเชิงลึกมีไม่ถึง 15 บริษัท จึงต้องเพิ่มจำนวนให้มากขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตรเป็นสาขาหนึ่งที่ไทยมีโอกาสและปัจจัยสนับสนุนสำคัญ โดยได้รับการจัดอันดับให้มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงเหมาะแก่การเจริญเติบโตและการอยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตนานาพันธุ์ ประกอบกับมีนักวิจัยที่มีความรู้ ความสามารถ และหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนคอยส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีชีวภาพจำนวนมาก

ส่วนรายงานผลการศึกษาของ Hello Tomorrow พบว่าเทคโนโลยีชีวภาพเป็นสาขาเทคโนโลยีขั้นสูงที่เติบโตและดึงดูดนักลงทุนได้มากที่สุด เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่น และเมื่อปี 2564 มีข้อมูลจาก AgFunder ระบุมูลค่าการระดมทุนของสตาร์ทอัพด้านการเกษตรที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชีวภาพทั่วโลกมีมูลค่า 85,800ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีมูลค่าการลงทุนสูงสุดด้านเกษตร
ถ้าเปรียบเทียบไทยได้รับการสนับสนุนการลงทุน พบว่าสตาร์ทอัพด้านการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีชีวภาพ มีมูลค่าเพียง 90 ล้านบาทเท่า หรือคิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.10 % ของโลก จึงยังมีโอกาสการเติบโตได้อีกมาก
ดังนั้น NIA เห็นโอกาสและความท้าทายจึงริเริ่ม “โครงการ AgBioTech Incubation 2023” มุ่งพัฒนานักศึกษา นักวิจัย ศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัย หรือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องการเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจเป็นสตาร์ทอัพที่มีทักษะและองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีชีวภาพที่พร้อมก้าวสู่การเป็นสตาร์ทอัพ แล้วต่อยอดสู่การสร้างนวัตกรรมแก้โจทย์ปัญหาภาคการเกษตรของประเทศ โดยอาศัยกระบวนการบ่มเพาะแบบเข้มข้นผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
รวมทั้งการจัดสรรพื้นที่การเรียนรู้และทำงานจริงร่วมกับเครือข่ายและนักลงทุน เพื่อสร้างให้เกิดระบบนิเวศนวัตกรรมในการสนับสนุนและผลักดันให้เกิดสตาร์ทอัพด้านการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีชีวภาพให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นความหวังของภาคการเกษตรไทยและพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวหน้า เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมการเกษตรคลื่นลูกใหม่ของประเทศให้เติบโตไปด้วยกัน

สำหรับ โครงการ AgBioTech Incubation 2023 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ทำงานร่วมกับ NIA และเครือข่ายหน่วยงานพันธมิตรทั้งย่านนวัตกรรมเกษตรและอาหารแม่โจ้ สถาบันนวัตกรรมเกษตรเพื่ออุตสหากรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และภาคีเครือข่ายชีววิทยาสังเคราะห์ เพื่อบ่มเพาะให้เกิดสตาร์อทัพด้านการเกษตรรายใหม่ที่มีความสามารถในการแข่งขัน สร้างการเชื่อมโยงให้เกิดระบบนิเวศ สนับสนุนการสร้าง “ย่านนวัตกรรมเกษตรและอาหารแม่โจ้” ให้กลายเป็น “ซิลิคอนวัลเลย์ด้านนวัตกรรมการเกษตรของไทย” ที่มีความพร้อมทั้งด้านงานวิจัย พื้นที่ทดสอบรวมถึงความร่วมมือกับหน่วยงานชุมชนในพื้นที่ เพื่อให้เกิดสตาร์ทอัพด้านการเกษตรที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชีวภาพของไทยที่สามารถขยายสู่ระดับประเทศ ภูมิภาค และระดับโลกต่อไป
ขณะนี้เปิดให้ นักศึกษา นักวิจัยภาครัฐ ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัย หรือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่อยากเรียนรู้เพื่อเป็นAgBioTech Startups โครงการ AgBioTech Incubation 2023 ร่วมเวทีแรกที่จะเป็นจุดเริ่มต้นปูเส้นทางการเติบโตไปด้วยกัน

สมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้-16 มิถุนายน 2566 ทาง http://agbiotech.nia.or.th/ และสอบถามเพิ่มได้ที่มณฑา ไก่หิรัญ 081-372 9163 อีเมล [email protected] และ ผศ.ดร. ณภัทร เรืองนภากุล โทร 096-356 2974 อีเมล [email protected]
รองศาสตราจารย์ ดร. วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า แม่โจ้มีนโยบายสำคัญเรื่องการส่งเสริมระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเร่งพัฒนาผู้ประกอบการทั้งรูปแบบเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ สอดคล้องกับทิศทางของโลกปัจจุบันและอนาคต ด้วยการทำงานสำคัญคือ การสร้างให้เกิด “ย่านนวัตกรรมเกษตรและอาหารแม่โจ้” ที่ได้รับความร่วมมือจาก NIA ผลักดันร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และเทศบาลท้องถิ่น ให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี นวัตกรรม พัฒนาและยกระดับกลุ่มผู้ประกอบการ กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มผู้ประกอบการในพื้นที่ได้
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza www.facebook.com/penroongyaisamsaen










