“สภาพอากาศ” วันนี้ (16 มิ.ย.67) กทม. ชุ่มฉ่ำฝนตก 30%

"สภาพอากาศ" วันนี้ (16 มิ.ย.67)
"สภาพอากาศ" วันนี้ (16 มิ.ย.67)

“สภาพอากาศ” วันนี้ (16 มิ.ย.67) กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนอิทธิพลมรสุมปกคลุม ทำให้ทั่วไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ กทม. ชุ่มฉ่ำฝนตก 30%

  • ขอให้ประชาชนระวังอันตราย
  • จากฝนฟ้าคะนอง

“สภาพอากาศ” วันนี้ (16 มิถุนายน 2567 ) มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำ

ปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทย มี ฝนฟ้าคะนอง เกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง

สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบน ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศ เวลา 06:00 น.วันนี้ – 06:00 น.วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่

ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ลพบุรี สระบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส

โดยลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส

ตั้งแต่จังหวัดพังงาขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ส่วนในช่วงประมาณครึ่งแรกของเดือน ปริมาณและการกระจายของฝนยังคงมีน้อย โดยจะมีฝนร้อยละ 20 – 30 ของพื้นที่เป็นส่วนใหญ่ และจะก่อให้เกิดสภาวะฝนทิ้งช่วงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่แล้งซ้ำซากนอกเขตชลประทาน

เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทย ยังคงมีกำลังอ่อน จากนั้นในช่วงครึ่งหลังของเดือน ปริมาณ และการกระจายของฝนจะมีเพิ่มมากขึ้นและต่อเนื่องกับจะมีฝนหนักถึงหนักมากในบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

เนื่องจาก  มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทย จะมีกลับมามีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในบางช่วงจะมีร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณตอนบนของทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 

สรุปเดือนนี้ คาดว่า ปริมาณฝนรวมส่วนใหญ่จะใกล้เคียงค่าปกติ เว้นแต่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือปริมาณฝนรวมจะน้อยกว่าค่าปกติประมาณร้อยละ 10 สำหรับอุณหภูมิเฉลี่ยยังคงสูงกว่าค่าปกติใกล้

ส่วนข้อควรระวัง

เดือนนี้ มักจะมีพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือด้านตะวันตก และเคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ ซึ่งจะส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้น

โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าว พยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาไว้ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เตือนฝนตกหนัก 15-19 มิ.ย.

: เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา