

เริ่มแล้ว! ศุลกากรออกประกาศ จัดเก็บแวตสินค้านำเข้า ต่ำ 1,500 บาท เก็บภาษีตั้งแต่บาทแรก เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมระหว่างผู้ขายสินค้าในประเทศ
- เก็บภาษีตั้งแต่บาทแรก
- เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
- ระหว่างผู้ขายสินค้าในประเทศ
นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มของนำเข้า จากต่างประเทศที่มีราคาตั้งแต่ 1 บาท เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมระหว่างผู้ขายในต่างประเทศซึ่งไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม กับผู้ขายในประเทศซึ่งต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
โดยยังคงยกเว้นอากรให้สำหรับของที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท ตามประกาศกรมศุลกากร ที่ 116/2567 ประกอบกับประกาศกระทรวงการคลัง ซึ่งยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับของที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท
- เก็บภาษีนำเข้าตั้งแต่ 1 บาท
ซึ่งมีผลทำให้ของที่นำเข้าที่มีราคาตั้งแต่ 1 บาท ขึ้นไป ต้องชำระภาษีสรรพสามิต และภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567
นายธีรัชย์ กล่าวว่า เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับการปฏิบัติพิธีการศุลกากร กรมศุลกากรจึงออกประกาศกรมศุลกากร ที่ 129/2567 เรื่อง หลักเกณฑ์และการปฏิบัติพิธีการศุลกากรสำหรับการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับการนำเข้าของที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท
ซึ่งผู้ประกอบการหรือผู้นำของเข้าประสงค์ขอใช้สิทธิยกเว้นอากรศุลกากร สามารถสำแดงรหัสสิทธิพิเศษของแต่ละรายการเป็น “LVG” ในใบขนสินค้าแต่ละประเภท โดยยังคงสามารถปฏิบัติพิธีการศุลกากรเหมือนเดิม
- ใครนำเข้าส่วนตัวต้องจ่ายภาษีผ่านปณ.
นายธีรัชย์ กล่าวว่า สำหรับการนำเข้าของกรณีทั่วไป ของเร่งด่วนทางอากาศยานและทางบก รวมถึงการนำของออกจากเขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ภายในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเพื่อใช้หรือจำหน่ายภายในประเทศ
การนำเข้าทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศ พนักงานไปรษณีย์จะนำจ่ายพัสดุและใบสั่งเก็บเงิน (Order form)
เพื่อเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้รับสามารถชำระภาษีมูลค่าเพิ่มผ่าน คิวอาร์ โค้ดได้ทันที หรือนำใบสั่งเก็บเงินไปชำระที่ธนาคารหากไม่สะดวกสแกน คิวอาร์ โค้ด
กรณีไม่มีผู้รับ พนักงานไปรษณีย์จะส่งใบนัดนำจ่ายพร้อมใบสั่งเก็บเงิน ผู้รับสามารถชำระภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านคิวอาร์ โค้ด หรือธนาคารที่กำหนด และติดต่อขอรับของ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ออกใบนัดนำจ่าย
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1164
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และการปฏิบัติพิธีการศุลกากร สำหรับการยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับการนำเข้าของที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท
โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1164 และตรวจสอบรายละเอียดของประกาศได้ที่ www.thaicustoms.go.th หรือสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานศุลกากรที่ท่านต้องปฏิบัติพิธีการศุลกากรทุกแห่ง
- ผู้ค้าออนไลน์โวยเก็บแวตสินค้านำเข้า
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต เปิดเผยถึงกรณี กระทรวงการคลังจะเริ่มเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% กับสินค้านำเข้าที่ต่ำกว่า 1,500 บาท เริ่มวันที่ 5 กรกฎาคมนี้ ว่า
ในส่วนนี้ไม่ได้มองว่าเป็นการหารายได้เข้ารัฐบาลแต่เป็นการให้ความเป็นธรรม กับผู้ประกอบการในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากผู้ที่นำเข้าสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าจะต่ำกว่าต้นทุนที่ผลิตสินค้าเองพอสมควร
แต่การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) สินค้านำเข้า โดยไม่มีข้อยกเว้นสินค้าตรงนี้อาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับ พ่อค้า แม่ค้า ออนไลน์ที่นำเข้าสินค้าเพราะต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% อาจไม่เป็นธรรมกับผู้ค้าได้ทั้งหมด
ทั้งนี้ หากมองในเชิงจิตวิทยาอาจจะมองว่าสินค้านำเข้าบางอย่างก็ไม่ได้ถูกอย่างที่คิด แถมต้องจ่ายภาษีอีก ซึ่งตรงนี้ก็ต้องมีการพิจารณาในการอธิบายเพิ่มเติมถึงเหตุผลของการที่ต้องเก็บภาษีสินค้านำเข้าครั้งนี้เพื่อให้เข้าใจกันทุกฝ่าย
- ย้ำเปิดตรวจสินค้าทุกตู้100%
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 ก.ค.นี้ กระทรวงการคลังจะเริ่มเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหรือแวต 7% กับสินค้านำเข้าที่ต่ำกว่า 1,500 บาทเป็นวันแรก โดยให้กรมศุลกากรเป็นผู้จัดเก็บให้แทน ระหว่างที่รอกรมสรรพากรแก้ไขกฎหมาย ยืนยันว่าหลักการของกฎหมายฉบับนี้
ไม่ได้ต้องการมุ่งเน้นเรื่องรายได้เป็นหลัก เพียงแต่ต้องการสร้างความเป็นธรรมในการทำธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการชาวไทย กับผู้ประกอบการต่างประเทศซึ่งที่ผ่านมาสินค้าผลิตในไทยต้องเสียภาษีแวต 7%
แต่สินค้านำเข้ากลับได้รับการยกเว้น ทำให้เกิดแต้มต่อทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม จึงจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายนี้ออกมา ซึ่งจะมีการเปิดตู้ตรวจ 100% รวมถึงการเก็บภาษีแบบออนไลน์
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร กล่าวว่า เบื้องต้นกรมศุลกากรเป็นผู้จัดเก็บภาษีส่วนนี้เป็นการชั่วคราวไปก่อนจนถึงสิ้นปี
เพื่อรอจนกว่าสรรพากรจะแก้ไขกฎหมายเสร็จ ยืนยันว่าเรื่องนี้ ไม่สร้างภาระให้กับประชาชนหรือผู้บริโภค เพราะวิธีการจัดเก็บภาษีได้เรียกเก็บจากบริษัทขนส่งของเอกชน ไม่ได้ไปเรียกเก็บกับประชาชนที่สั่งซื้อสินค้า
ทั้งนี้ยกเว้นกรณีสินค้าที่มีการจัดส่งทางไปรษณีย์จากต่างประเทศ ซึ่งปกติมีปริมาณไม่มากอยู่แล้ว โดยส่วนนี้มีการออกใบสำหรับจ่ายภาษีเพิ่มเติม ซึ่งผู้ซื้อสามารถสแกนจ่ายภาษีกับบุรุษไปรษณีย์ได้ และรับของได้
ส่วนสินค้าที่มีการจัดส่งผ่านขนส่งเอกชน ซึ่งเป็นสินค้าเกือบทั้งหมด ประชาชนไม่ต้องจ่ายภาษีเพิ่ม เพราะกรมศุลฯ จะเรียกเก็บจากผู้ขนส่ง ซึ่งผู้ขนส่งจะเรียกเก็บผู้ประกอบการต่ออีกที
ดังนั้น ผู้ประกอบการขนส่งห้ามฉวยโอกาสไปเรียกเก็บเงินภาษีกับประชาชนปลายทางที่รับสินค้าอย่างเด็ดขาด
สำหรับปริมาณสินค้าที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท และมีการนำเข้ามาในไทย ในรอบ 8 เดือนปีนี้ มีมูลค่านำเข้า 26,000 ล้านบาท คิดเป็น 89 ล้านชิ้น และคาดว่าทั้งปีน่าจะมีสินค้ากลุ่มนี้นำเข้ามาได้ 30,000 ล้านบาท
เท่ากับว่าจะจัดเก็บภาษีนี้เฉลี่ยปีละ 2,000 ล้านบาท โดยสินค้ากลุ่มนี้ที่นำเข้ามาส่วนใหญ่จะเป็นการขนส่งทางรถบรรทุกจากจีน เข้ามาด่านมุกดาหารมากเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาเป็นด่านนครพนม
นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาฐานภาษี และโฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้กรมฯเตรียมหารือกับผู้ประกอบการแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ ถึงรายละเอียดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกับสินค้านำเข้าที่มูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท โดยหลักการผู้ประกอบการแพลตฟอร์ม
ต้องเป็นผู้จัดเก็บและนำส่งภาษีให้กรมฯโดยตรง คล้ายกับการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกับบริการ หรือ อีเซอร์วิส แต่รายละเอียดอาจแตกต่างกันบ้าง เช่น สินค้าอาจมีการคืนของ จึงต้องหารือในรายละเอียด
นอกจากนี้ กรมกำลังอยู่ระหว่างการแก้กฎหมายประมวลรัษฎากรเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีนี้ เพื่อให้อำนาจสรรพากรสามารถจัดเก็บภาษีนี้ได้ถูกต้อง
ซึ่งจะทำให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้สามารถจัดเก็บภาษีได้ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป แต่หากกระบวนการล่าช้า ก็อาจให้กรมศุลฯเป็นผู้จัดเก็บภาษีแทนไปพลางก่อนจนกว่ากฎหมายจะแล้วเสร็จ.
สำหรับวิธีการเก็บภาษีทางกรมศุลกากร ระบุว่า
1.การเก็บภาษีไม่สร้างภาระให้กับประชาชนหรือผู้บริโภค เพราะวิธีการจัดเก็บภาษี กรมจะมีการเรียกจัดเก็บจากบริษัทขนส่งของเอกชน โดยไม่ได้ไปเรียกเก็บกับประชาชนที่สั่งซื้อของไป
2.ยกเว้นกรณีสินค้าที่มีการจัดส่งทางไปรษณีย์จากต่างประเทศ ซึ่งปกติจะมีปริมาณไม่มากอยู่แล้ว โดยส่วนนี้จะมีการออกใบสำหรับจ่ายภาษีเพิ่มเติม ซึ่งผู้ซื้อสามารถสแกนจ่ายภาษีกับบุรุษไปรษณีย์ได้ และรับของไปได้เลย
3.สินค้าทุกชิ้นที่สั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ จะถูกคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ทั้งหมดตั้งแต่บาทแรก โดยไม่ได้รับการยกเว้น
4.การสั่งสินค้าทางออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มที่นิยม เช่น Lazada, Shopee ส่วนใหญ่มีการจัดส่งผ่านขนส่งเอกชน ทำให้ประชาชนไม่ต้องจ่ายภาษีเพิ่ม เมื่อสินค้าถึงปลายทาง เพราะกรมศุลฯ จะเรียกเก็บจากผู้ขนส่ง ซึ่งผู้ขนส่งจะไปเรียกเก็บผู้ประกอบการต่ออีกที
5.ห้ามผู้ประกอบการขนส่งห้ามฉวยโอกาสไปเรียกเก็บเงินภาษีกับประชาชนปลายทางที่รับสินค้าอย่างเด็ดขาด
6.ปริมาณสินค้าที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท และมีการนำเข้ามาในไทย ในรอบ 8 เดือนปีนี้ มีมูลค่านำเข้า 26,000 ล้านบาท คิดเป็น 89 ล้านชิ้น
และคาดว่าทั้งปีน่าจะมีสินค้ากลุ่มนี้นำเข้ามาได้ 30,000 ล้านบาท ทำให้หากกรมจัดเก็บภาษีเต็มปีจะได้เฉลี่ยปีละ 2,000 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ศุลกากร เอาจริง! เพิ่มบทลงโทษ ผู้ซื้อ-ครอบครอง “บุหรี่ไฟฟ้า”