

“กรมสรรพสามิต” เผยผลการจัดเก็บภาษี ช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 จัดเก็บได้กว่า 3.4 แสนล้านบาท เพิ่มสูงขึ้น 11.4 % หลังเก็บภาษีจากเครื่องดื่ม – ไนต์คลับ – สนามกอล์ฟ ได้เพิ่มขึ้น
- หลังเก็บภาษีจากเครื่องดื่ม – ไนต์คลับ
- สนามกอล์ฟ ได้เพิ่มขึ้น
วันที่ 2 มิถุนายน 2567 ดร. นิตยา โสรีกุล รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยผลการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 (เดือนตุลาคม 2566 – พฤษภาคม 2567) ว่า กรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีได้ 349,563.54 ล้านบาท
ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้นมากกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2567 ที่ขยายตัวร้อยละ 2.5 ต่อปี
ทั้งนี้ ผลการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว สะท้อนถึงประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตที่สูงกว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย นอกจากนั้น การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในช่วง 8 เดือนแรก ยังสะท้อนถึงการใช้จ่ายในประเทศที่ดีขึ้น ตามการท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจะเห็นได้จากภาษีสรรพสามิตที่เก็บจากสินค้าและบริการในหมวดที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น ภาษีเครื่องดื่ม ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 11.3 ต่อปี ภาษีกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ (ไนต์คลับและดิสโกเธค) และภาษีสนามกอล์ฟ ที่จัดเก็บได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.6 ต่อปี และร้อยละ 14.9 ต่อปีตามลำดับ การจัดเก็บภาษีแบตเตอรี่ สูงขึ้นกว่าปีก่อนร้อยละ 13.0 ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตขึ้น
อีกทั้ง ยังจัดเก็บภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 85.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล เพื่อเป็นการช่วยลดค่าครองชีพประชาชน
ทั้งนี้แม้ว่าการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 ที่สูงขึ้นกว่าร้อยละ 11 จากปีก่อน แต่ยังคงต่ำกว่าประมาณการรายได้ที่กรมสรรพสามิตได้รับจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลังซึ่งตั้งไว้สูงถึงร้อยละ 25 ที่ไม่ได้นับรวมผลกระทบของมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าระยะแรก (EV3.0) และมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าระยะที่ 2 (EV 3.5)
โดยปรับลดอัตราภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจากร้อยละ 8 เหลือร้อยละ 2 รวมถึงการปรับลดอัตราภาษีน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล เพื่อช่วยลดค่าครองชีพประชาชนในช่วงที่ผ่านมา
ดังนั้นในปีงบประมาณ 2567 กรมสรรพสามิตจะเร่งดำเนินการจัดเก็บภาษีให้ได้ตามเป้าหมายตามที่ได้รับจากกระทรวงการคลังต่อไป
- คลังกางยอดจัดเก็บรายได้ 8 เดือน ต่ำกว่าเป้า
ส่วนการจัดเก็บรายได้ในภาพรวม นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า
ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 (ต.ค.66-พ.ค.67) รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1.62 ล้านล้านบาท ขณะเดียวกันมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 2.2 ล้านล้านบาท โดยรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 4.2 แสนล้านบาท
ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน พ.ค.2567 อยู่ที่ 3.94 แสนล้านบาท
ขณะที่ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 (ต.ค.66-พ.ค.67) ว่า รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ อยู่ที่ 1.67 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 2.62 หมื่นล้านบาท หรือ 1.5% โดยกรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการ
เนื่องจากมีมาตรการปรับลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซิน ประกอบกับการจัดเก็บภาษีรถยนต์และภาษียาสูบต่ำกว่าประมาณการเป็นสำคัญ
โดยภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของ 3 กรมภาษี (กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร) ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 อยู่ที่ 1.74 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น กรมสรรพากรจัดเก็บรายได้รวมอยู่ที่ 1.32 ล้านล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 7.67 พันล้านบาท หรือ 0.6%
ขณะที่กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้รวมอยู่ที่ 3.49 แสนล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 5.34 หมื่นล้านบาท หรือ 13.3% ส่วนกรมศุลกากรจัดเก็บรายได้รวม อยู่ที่ 7.9 หมื่นล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 2.73 พันล้านบาท หรือ 3.6%
สำหรับรัฐวิสาหกิจจัดเก็บรายได้รวม 1.33 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 3.16 พันล้านบาท หรือ 2.4% ขณะที่หน่วยงานอื่นจัดเก็บรายได้ 1.22 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณ 3.4 พันล้านบาท หรือ 2.9%
ส่วนราชการอื่นจัดเก็บรายได้ 1.11 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1.4 พันล้านบาท ส่วนกรมธนารักษ์จัดเก็บราย 1.13 หมื่นล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 2 พันล้านบาท หรือ 21.5%
สำหรับหนี้สาธารณะในปัจจุบันของรัฐบาล อยู่ที่ 11.5 ล้านล้านบาท คิดเป็น 63.78% ของจีดีพี โดยแบ่งเป็นรัฐบาลกู้ตรง 9.5 ล้านล้านบาท รัฐกู้ชดใช้ความเสียหายกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 5.9 แสนล้านบาท รัฐวิสาหกิจกู้ 1 ล้านล้านบาท
โดยมีรัฐค้ำประกันให้รัฐวิสาหกิจ 2 แสนล้านบาท หน่วยงานรัฐ 1.1 แสนล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : กรมสรรพสามิต ยกระดับการปราบปรามสินค้าหนีภาษีเต็มพิกัด