

“เนวิน” รวมใจประชาชนชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” บรรเลงโดย บุรีรัมย์ออเครสตรา ถวายความจงรักภักดี 28-30 ก.ค. 2567 ณ สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์
- แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล
- “ลมหายใจของแผ่นดิน”
- ถวายความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.67
วันที่ 27 ก.ค.2567 นาย เนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รวมใจประชาชนชาวบุรีรัมย์ จัดงานเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้ชื่องาน “ลมหายใจของแผ่นดิน” วันที่ 28-30 กรกฎาคม 2567 ณ สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา

สำหรับงาน “ลมหายใจของแผ่นดิน” ได้ถ่ายทอดความจงรักภักดีของคนไทย ผ่านบทเพลงบรรเลงโดย “บุรีรัมย์ออเครสตรา” และละครเพลง นำเสนอ พระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ชมการแสดงแสง สี เสียง ออกแบบงานกราฟฟิคสื่อถึงความเป็นไทย มีความงดงามวิจิตรแบบไทย ที่ไม่แพ้ใครในโลก ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน

ทั้งนี้ สำรองที่นั่งได้ที่ https://buriram.glide.page หรือแฟนเพจ BURRIRAM UNIT

- เปิดศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทั่วไทย เฉลิมพระเกียรติในหลวง
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสถานียุติธรรม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 72 สถานี
นายถาวร เสนเนียม หัวหน้าสถานียุติธรรม เปิดเผยว่า แนวทางการทำงานของสถานียุติธรรม คือ “การสู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง” โดยเฉพาะปัญหาจากส่วนราชการไม่สามารถทำให้ประชาชนได้รับความพึงพอใจจากการรับบริการ จากการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานที่ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม
การจัดการประชุมในครั้งนี้ของทั้ง 72 สถานียุติธรรม เป็นการจัดประชุม เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ที่ได้ตั้งพระราชปณิธานเอาไว้ว่า เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด ซึ่งตรงกับแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ 72 สถานี ที่จะเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ในการสู้ให้ทุกปัญหาพึ่งพาได้ทุกเรื่อง ซึ่งตรงกับพระราชปณิธานของพระองค์ท่าน
“วัตถุประสงค์ของสถานียุติธรรม พรรครวมไทยสร้างชาติ คือ การเป็นที่พึ่งให้กับประชาชน ขอฝากไว้ว่าการทำดีต้องไม่มีวันหยุด ทำอย่างต่อเนื่อง อย่างจริงใจ และจริงจัง” นายถาวร กล่าว
- ทั่วไทยจัดเฉลิมพระเกียรติ
รายงานข่าวแจ้งว่า ทั่วไทยได้จัดกิจกรรม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2567 เช่นที่ จ.เชียงใหม่ จัดพิธี ณ ห้องนิทรรศการ 1 ศูนย์ประชุม และแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 07.00 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ จำนวน 85 รูป ถวายพระราชกุศล
และพิธีทางศาสนามหามงคล ทั้งคริสต์ อิสลาม พราหมณ์ ฮินดู และซิกข์ ตามด้วยการกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล และกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน ดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงสดุดีจอมราชา และเวลา 17.00 น. พิธีถวายเครื่องราช สักการะและวางพานพุ่ม และพิธีถวายพระพรชัยมงคล
ด้าน ดร.กษมา ประสงค์เจริญ ผู้อำนวยการ เชี่ยวชาญ วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่จัดการแสดงโขน เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน พระรามราชสุริยวงศ์ เนื่องในงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
ภายใต้การจัดโครงการเผยแพร่ ศิลปวัฒนธรรมทั่วทิศแผ่นดินไทย พ.ศ.2567 ระหว่างเวลา 18.00-21.00 น. ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา ตรงข้ามอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ และเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่และเครือข่าย จำนวน 500 คน จัดกิจกรรม ฟ้อนเทียน ถวายในหลวง รัชกาลที่ 10 เวลา 17.00 น. บริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์
- พิษณุโลกโชว์ภาพหายาก
ที่พิพิธภัณฑ์บัญชา ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้จัดแสดงพระบรมฉายาลักษณ์ พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 ให้กับประชาชน ทั้งในและต่างจังหวัดได้มาเข้าชม เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ ภาพที่นำมาจัดแสดงเป็นภาพหาชมยาก
- ขึ้นทะเบียนจีไอกระท้อนทองใบใหญ่บางเจ้าฉ่า
ขณะที่ทางฝั่งหน่วยงานของรัฐหลายแห่ง ก็ได้มีการจัดกิจกรรม เช่นเดียวกัน อาทิ “กระทรวงพาณิชย์” ร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา
โดยการประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) “กระท้อนทองใบใหญ่บางเจ้าฉ่า” กระท้อนทรงปลูกและพระราชทานพันธุ์กระท้อนให้แก่ราษฎรจังหวัดอ่างทอง เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร พัฒนาคุณภาพชีวิต ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “กระท้อนทองใบใหญ่บางเจ้าฉ่า” เป็นกระท้อนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเสด็จพระราชดำเนิน ทรงปลูกต้นกระท้อนพันธุ์ “ทองใบใหญ่” ณ วัดยางทอง
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2550 “กระท้อนทองใบใหญ่บางเจ้าฉ่า” มีลักษณะผลค่อนข้างกลม ขั้วผลนูนเล็กน้อย เปลือกบาง ผิวนอกไม่เรียบ ผลสุกสีเหลืองทอง เนื้อหนานุ่ม ฉ่ำ ปุยเมล็ดมีรสชาติหวานฉ่ำ กลิ่นหอมหวาน มีการขยายพื้นที่ปลูกทั้งอำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง
ซึ่งมีลักษณะทางภูมิศาสตร์เป็นที่ราบตะกอนน้ำพา มีชุดดินสิงห์บุรีที่มีธาตุโพแทสเซียมและฟอสฟอรัสสูง รวมถึงภูมิปัญญาและองค์ความรู้ในเรื่องการเพาะปลูกของเกษตรกรที่มีความชำนาญและประสบการณ์
ประกอบกับ ลักษณะภูมิอากาศจัดอยู่ในโซนร้อนและชุ่มชื้น เป็นแบบฝนเมืองร้อนเฉพาะฤดู โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้มีเมฆมากและฝนตกชุก
ส่งผลให้กระท้อนมีรสชาติหวานฉ่ำ รสชาติอร่อย และเจริญเติบโตได้ดี จนได้รับรางวัลชนะเลิศด้านรสชาติอันดับ 1 ของจังหวัดอ่างทอง และได้มีการจัดงานมหกรรมกระท้อนทองใบใหญ่ทรงปลูก เพื่อเผยแพร่ผลผลิตกระท้อนให้เป็นที่นิยมของตลาด จนสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในชุมชนกว่า 6 ล้านบาทต่อปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : นายกฯชวนคนไทยพร้อมใจ ใส่เสื้อเหลืองเฉลิมพระเกียรติในหลวง