

“พรรคประชาชน” คว้าชัยชนะในสนามเลือกตั้ง ปี 70 ขอเป็นรัฐบาลพรรคเดียวลั่นยึดมั่นอุดม การณ์เดิม ด้าน “ศิริกัญญา” ยันไม่ได้ประสงค์รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคตั้งแต่แรก
- ขอเป็นรัฐบาลพรรคเดียว
- ลั่น! ยึดมั่นอุดม การณ์เดิม
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2567 ที่อาคารไทยซัมมิท ภายหลังที่ประชุม สส.อดีตพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่ร่วมประชุมกับพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล เพื่อเปลี่ยนชื่อพรรคเป็น “พรรคประชาชน (ปชช.)” และแต่งตั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ใหม่ โดยมีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ นายศรายุทธ ใจหลัก เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่นั้น
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ นายศรายุทธ ใจหลัก นายพริษฐ์ วัชรสินธุ และ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายพริษฐ์ เป็นตัวแทนพรรคแถลงว่า ขอประกาศอย่างเป็นทางการว่า
พวกเราฟื้นคืนชีพกลับมาแล้วในนามพรรคปชช. วันนี้ 143 สส.อดีตก.ก. ที่ไม่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง และ สก. 11 คน รวมถึงแนวร่วม อดีตเครือข่ายพรรคก.ก.ทั่วประเทศ ได้ประชุม ตกลงร่วมกันเพื่อเดินหน้าต่อ ขับเคลื่อนผลักดันประเทศนี้ในนามพรรคปชช.
- แต่งตั้ง กก.บห. 5 คน
นายพริษฐ์ กล่าวว่า เหตุผลที่ใช้ชื่อนี้ เพราะต้องการเป็นพรรคการเมืองโดยประชาชน เพื่อประชาชน และเดินหน้าสู่การสร้างประเทศไทยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน มีความเชื่อในระบอบประชาธิปไตย สิ่งมีคุณค่าสูงสุดคือประชาชนทุกคนในประเทศ สถาบันทางการเมืองทุกสถาบัน ควรยึดโยงประชาชน ถูกตรวจสอบได้โดยประชาชน และดำรงอยู่อย่างมั่นคง ชอบธรรม
ด้วยความยินยอมพร้อมใจของประชาชนทุกคน สัญลักษณ์ของพรรคปชช. จะเป็นสัญลักษณ์สามเหลี่ยมมุมกลับ ต่อยอดจากแนวคิดอนาคตใหม่ (อนค.) และก.ก.วันนี้ที่ประชุมพรรคประชาชน มีมติแต่งตั้งกก.บห. 5 คน ได้แก่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นหัวหน้าพรรค นายศรายุทธ ใจหลัก เลขาธิการพรรค น.ส.ชุติมา คชพันธุ์ เป็นเหรัญญิกพรรค นายณัฐวุฒิบัวประทุม เป็นนายทะเบียนพรรค นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ เป็นกก.บห.
นายพริษฐ์ กล่าวต่อไปว่า ภารกิจแรก เชิญชวนประชาชนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น รวมถึงสมาชิกพรรคก.ก. 1 แสนกว่าคน มาร่วมกันขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในบทถัดไปของการเมืองไทย ในการเข้าเว็บไซต์พรรคปชช. ร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้ผ่าน 2 ช่องทาง คือ
1.สมัครเป็นสมาชิกพรรค ตั้งเป้าหมายให้ยอดถึง 1 แสนคนโดยเร็วที่สุด 2.บริจาคเงินให้พรรคเพื่อขับเคลื่อนทางการเมือง โดยตั้งเป้าไว้ 10 ล้านบาท หลังจากนั้นในวันที่ 10 ส.ค.จะจัดกิจกรรมทั่วประเทศ เปิดรับสมาชิก เปิดรับบริจาคของประชาชนที่มาเป็นส่วนหนึ่งกับพรรคปชช.โดยใน กทม. จะมีบูธใหญ่จัดขึ้นที่ สเตเดียมวัน ถนนบรรทัดทอง
กระบวนการทำให้พรรคปชช.เป็นสถาบันทางการเมือง สืบทอดอุดมการณ์พรรคอนค. และก.ก. เป็นสิ่งสำคัญ วันนี้ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค จะพูดสื่อสารถึงประชาชนอย่างตรงไปตรงมาว่า
ภารกิจของเราต่อจากนี้ จะสร้างรัฐบาลแห่งการเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งปี 2570 สำคัญที่สุดเราจำเป็นต้องชนะการเลือกตั้งครั้งหน้า เราต้องตั้งเป้าหมายให้สูงยิ่งขึ้น นอกจากการเป็นพรรคอันดับ 1 ในการเลือกตั้งปี 2566 ต่อไปคือ การชนะเลือกตั้งเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้ นี่คือเป้าหมายสูงสุดของพวกเรา
- “ศิริกัญญา”แจง-ไม่รับผู้นำ
ด้นา น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีการคาดเดาไปต่าง ๆ นานาว่าใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรค โดยมีชื่อตนด้วย แต่อย่างที่บอกว่าการเลือกหัวหน้าพรรค ต้องเริ่มจากกระบวนการภายใน โดยเริ่มจากคืนวานนี้ (8 ส.ค.)
เป็นการเริ่มต้นกระบวนการภายในของ สส.อดีตพรรคก.ก. ในกระบวนการจะต้องมีการหยั่งเสียง เพื่อหาเสียงผู้รับรองว่าที่หัวหน้าพรรคคนใหม่ ก่อนเข้าสู่กระบวน การที่ประชุมใหญ่วิสามัญในวันนี้ ในการเสนอชื่อมีหัวหน้าพรรคคนเดียวที่มีการเสนอชื่อคือ นายณัฐพงษ์ และผู้เสนอชื่อนั้นคือตนเอง
ดังนั้นตนไม่มีความประสงค์ แข่งขันตำแหน่งหัวหน้าพรรคตั้งแต่ต้น จึงเสนอชื่อนายณัฐพงษ์ด้วยความมั่นใจว่ามีคุณสมบัติพร้อม ในการเป็นหัวหน้าพรรคใหม่ ในการสู้ศึกเลือกตั้งปี 2570 เพราะเป็นคนครบเครื่อง เริ่มต้นทำงาน สส.เขต ทำงาน สส.ปาร์ตี้ลิสต์ มีบทบาททำงานเบื้องหลังพรรคในฝ่ายไอที และทำระบบต่าง ๆ มีส่วนร่วมบริหารพรรคมาโดยตลอด ทำให้ตนมั่นใจ และเพื่อนสมาชิกให้เสียงสนับสนุนรับรองนายณัฐพงษ์
- ยันอำนาจของปชช.
ผู้สื่อข่าวสอบถามที่มาชื่อพรรคปชช.มาอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตั้งแต่อนค. ก.ก. จนถึงประชาชน มีประโยคหนึ่งสำคัญสุดคือ อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน คำว่าประชาชนในชื่อพรรค ไม่ใช่อยู่ในชื่อพรรคอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังระบุสโลแกนว่า
โดยประชาชน เพื่อประชาชน และเดินหน้าสู่การสร้างประเทศ ไทยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน สอดคล้องโลโก้พรรคเป็น 3 เหลี่ยมหัวกลับ มี 6 ด้าน สอดคล้องคณะราษฎร 6 ประการ รวมถึงสีประจำพรรค สืบสานอุดมการณ์ต่อไป นี่คือหลายอย่างที่สะท้อนออกไป ความเชื่อ อุดมการณ์ เราไม่เปลี่ยนแปลง เดินหน้าต่อไป
เมื่อผู้บริหารเปลี่ยน บางอย่างการบริหารพรรคต้องเปลี่ยนไป แต่เรื่องหลักการความเชื่อ อุดมการณ์ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ที่เปลี่ยนไปทุกคนก็เห็น กรรมการบริหารเปลี่ยน แบ่งบทบาทหน้าที่ใหม่ตามที่นายศรายุทธระบุ การสร้างฐานสมาชิกพรรค การสร้างทีมเครือข่ายจังหวัดสำคัญ
เราไม่ต้องการสร้างพรรคให้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง การมีฐานสมาชิกพรรค ยึดโยงกับพรรค ไม่ใช่ยึดโยงกับนักการเมือง ถ้าอนาคตเกิดมีงูเห่า หรือคนย้ายเปลี่ยนอุดมการณ์ คิดว่าจะทำให้พรรคไม่มั่นคงแข็งแรง การแบ่งบทบาทหน้าที่ของหัวหน้า กับเลขาธิการ สะท้อนให้เห็นชัดว่ามีแนวทางทำงานอย่างไร
- เดินหน้าแก้ม.112
นายณัฐพงษ์ ยังตอบคำถามสื่อมวลชนถึงกรณีการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลังจากนี้จะลดเพดานลงหรือไม่ว่า เราไม่เคยสื่อสารว่าลดเพดานอะไร ยืนยันว่าเราเสนอร่างแก้ไขกฎหมาย มาตรา 112 เพื่อไม่ให้มีการกลั่นแกล้งพรรคฝั่งตรงข้าม และคำวินิจฉัยศาลไม่ได้สั่งห้ามแก้ไข แน่นอนว่าเราไม่ประมาท เราทำทุกอย่างรอบคอบ คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) ที่ออกมา จนยุบพรรคก.ก. เราต้องศึกษาอย่างดี
แต่คิดว่าพวกเราต้องผลักดันเดินหน้าการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย โดยเฉพาะในส่วนนี้ที่ยังมีปัญหาอยู่ เมื่อถามถึงคดีความของ 44 สส.อดีตพรรคก.ก. ที่อยู่ระหว่างไต่สวนในชั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คำร้องของ ป.ป.ช.คิดว่าต่างจากการยุบพรรค เพราะเป็นศาลยุติธรรม ต้องพิจารณาเป็นรายกรณี การกระทำของ สส.แต่ละคน องค์ประกอบอาจต่างกันบ้าง บางคนอาจเรียกร้องแทนผู้ชุมนุม บางคนใช้สิทธิประกันตัว แต่ทุกคนได้ลงนามเสนอแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งแต่ละคนมีสิทธิชี้แจงกันไป แต่โดยส่วนตัวไม่มีข้อกังวล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดตัวแล้ว! จากก้าวไกลสู่.. พรรคประชาชน “เท้ง ณัฐพงษ์” เป็นแม่ทัพ