มาแล้ว! โลโก้ใหม่ “30 บาทรักษาทุกที่” “สมศักดิ์” ยัน 26 สิงหาฯ พร้อมดูแลคนกรุง

สมศักดิ์


มาแล้ว! โลโก้ใหม่ ’30 บาทรักษาทุกที่’ด้าน ‘สมศักดิ์’ รมว.สธ. ยืนยัน 26 สิงหาฯ พร้อมดูแลคนกรุง และออกหน่วยบริการนวัตกรรมที่เป็นทางเลือกใหม่

  • ยืนยัน 26 สิงหาฯ
  • พร้อมดูแลคนกรุง

วันที่ 11 สิงหาคม 2567นาย สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เปิดเผยว่า ในการดำเนินการ 30 บาทรักษาทุกที่ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสน และเข้ารับบริการได้อย่างถูกต้องตามนโยบาย

ที่จะเริ่มให้บริการในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ ได้มอบให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดทำแนวทางการเข้ารับบริการ และยังเป็นแนวทางการให้บริการสำหรับหน่วยบริการที่เข้าร่วมให้บริการด้วย เพื่อความชัดเจนในการดูแล

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับตราสัญลักษณ์ หรือโลโก้ 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อใช้ในการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ ได้มอบให้ สปสช. ดำเนินการจัดทำใหม่ให้มีความโดดเด่น ชัดเจน และสังเกตได้ง่าย ทำให้ประชาชนเข้ารับบริการได้โดยสะดวก โดยมีข้อความ “30 บาทรักษาทุกที่”

และมีเครื่องหมาย “ถูก” ที่สะท้อนว่าให้บริการอย่างมีคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข บนสัญลักษณ์เครื่องหมายกากบาทสีแดง “กาชาด” และได้ใช้สีแดงที่สื่อถึงการรักษาพยาบาล ที่บ่งบอกถึงความอุ่นใจในบริการดูแล

“ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคมนี้ ซึ่งจะเป็นวันคิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ในพื้นที่กรุงเทพฯ จะเห็นสัญลักษณ์ 30 บาทรักษาทุกที่ ติดที่หน่วยบริการในระดับปฐมภูมิ ท่านสามารถเดินเข้ารับบริการได้เลย ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียวในสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท

แต่ถ้าอาการเกินจากศักยภาพที่หน่วยบริการปฐมภูมิและหน่วยบริการนวัตกรรมจะให้การดูแลได้ ก็จะได้รับการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่รับส่งต่อ เรียกว่า เป็นการเพิ่มการเข้าถึงบริการ เพิ่มความสะดวก ลดความแออัดการเข้ารับบริการให้กับประชาชน โดยการมีส่วนร่วมจากหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน”

นายสมศักดิ์ กล่าวและว่า สำหรับโลโก้ใหม่นั้น จะเริ่มติดที่หน่วยบริการที่เข้าร่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อน หลังจากนั้น จะทยอยติดที่หน่วยบริการในจังหวัดนำร่องที่ผ่านมาให้ครบถ้วน

ขณะที่ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวถึงการมีตราสัญลักษณ์ 30 บาทรักษาทุกที่ ติดที่หน่วยบริการ ว่า หมายความว่า หน่วยบริการนั้นคือ หน่วยบริการในระดับปฐมภูมิที่เข้าร่วมให้บริการประชาชนสิทธิบัตรทอง ซึ่งจะต้องผ่านหลักเกณฑ์ 3 ข้อ

1.มีระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการยืนยันตัวตนผู้ใช้บริการทั้งก่อนการใช้บริการและหลังการใช้บริการ หรือที่เรียกว่า การเปิดและปิดสิทธิในการให้บริการผู้ใช้สิทธิบัตรทองได้

2.ได้ทำการเชื่อมข้อมูลสุขภาพกับ สปสช.แล้ว และ 3.มีระบบส่งต่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Referral) เพื่อเชื่อมข้อมูลกับโรงพยาบาลรับส่งต่อในเครือข่ายในกรณีที่อาการผู้ป่วยเกินศักยภาพให้บริการได้

นพ.จเด็จ กล่าวว่า ในการเข้ารับบริการนั้น ประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทอง นอกจากจะเข้ารักษาตามขั้นตอนปกติที่หน่วยบริการประจำแล้ว ยังมีทางเลือกใหม่สามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการที่มีโลโก้ 30 บาทรักษาทุกที่ปรากฏอยู่ด้านหน้า

ซึ่งจะเป็นหน่วยบริการในระดับปฐมภูมิ ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.), สถานีอนามัย, ศูนย์สุขภาพชุมชน, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) โรงพยาบาลอำเภอ, และโรงพยาบาลศูนย์ (รพศ.)/โรงพยาบาลทั่วไป (รพท.) ประจำจังหวัด

“ขณะที่ในกรุงเทพฯ หน่วยบริการระดับปฐมภูมิจะเป็น คลินิกชุมชนอบอุ่น และศูนย์บริการสาธารณสุข นอกจากนั้น ยังมีหน่วยปฐมภูมิของโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ สธ.เข้าร่วมด้วย สำหรับโรงพยาบาลรัฐสังกัดอื่นๆ นั้น เป็นหน่วยบริการในระดับทุติยภูมิ และระดับตติยภูมิ ถือเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อที่จะต้องใช้ใบส่งตัวในการเข้ารักษา”

นอกจากนั้น ยังมีหน่วยบริการนวัตกรรมที่เป็นทางเลือกใหม่ ได้แก่ ร้านยาคุณภาพและคลินิกเอกชนที่เข้าร่วมกับ สปสช. เช่น คลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรม คลินิก พยาบาล คลินิกเทคนิคการแพทย์ คลินิกแพทย์แผนไทย คลินิกกายภาพบำบัด ฯลฯ” นพ.จเด็จ กล่าว

ในกรณีที่อาการป่วยเกินศักยภาพที่หน่วยบริการที่จะให้การรักษาได้ ก็จะได้รับการส่งต่อไปรับบริการที่โรงพยาบาลในเครือข่าย ซึ่งระบบการส่งต่อจะมีทั้งในรูปแบบใบส่งตัวกระดาษและใบส่งตัวอิเล็กทรอนิกส์หรือแบบออนไลน์ขึ้นอยู่กับความพร้อมของหน่วยบริการในการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ

ในส่วนของหน่วยบริการที่เข้าร่วมและจะเข้าร่วมกับ สปสช.ทุกแห่งนั้น

ดังนั้น ขอให้มั่นใจในการเรื่องการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการ ซึ่ง สปสช.ได้มีการปรับการจ่ายบริการในรูปแบบใหม่ รวมถึงระบบการเบิกจ่ายเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่เข้ากับระบบสุขภาพในพื้นที่กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ สปสช. จะมีการจัดแถลงข่าวชี้แจงทำความเข้าใจขั้นตอน การใช้สิทธิของประชาชน การเชื่อมข้อมูล การส่งต่อผู้ป่วย และการเบิกจ่ายต่างๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและหน่วยบริการ ในวันที่ 20 สิงหาคมนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : รัฐดึง 140 โรงพยาบาลเข้าระบบ 30 บาท รักษาทุกที่
:เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข