คนเกาหลียังฮิตมาไทย! กระแส แบนเที่ยวเกาหลี ไม่กระทบ



เกาหลียังฮิตมาไทย ททท. ตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวเกาหลีเที่ยวไทยปี 2568 ถึง 2 ล้านคน กระแส แบนเที่ยวเกาหลี ไม่กระทบตลาด

  • ดึงนักท่องเที่ยวเกาหลี 2 ล้านคน
  • กระแส แบนเที่ยวเกาหลี ไม่กระทบตลาด

วันที่ 13 ก.ค.2567 นายพัฒนพงศ์ พงษ์ทองเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานกรุงโซล การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า แม้ปัจจุบันแนวโน้มตลาดนักท่องเที่ยวไทยจะเลือกไม่เดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้

หลังจากกระแสแบนเกาหลี เพราะไม่สะดวกและเสี่ยงต่อการถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของนักท่องเที่ยวเกาหลีที่เดินทางเข้าประเทศไทย

โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ททท.สำนักงานกรุงโซลจะกระตุ้นการเดินทางช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. ด้วยการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) ไปยังจุดหมายปลายทางที่มีศักยภาพ ทั้งกรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่

ดึงคนเกาหลีเที่ยวไทย 2 ล้านคน

ทั้งนี้ ททท.ตั้งเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวเกาหลีเดินทางเข้าไทยมากกว่า 2 ล้านในปี 2568 เพิ่มจากปีนี้ที่คาดว่าจะมีจำนวน 1.94 ล้านคน เพิ่มขึ้นราว 20% จากจำนวน 1.65 ของปี 2566

ส่วนการเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวเกาหลีสู่ระดับ 1.94 ล้านคนในปีนี้ ถือว่าสูงกว่าปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด ซึ่งมีจำนวน 1.88 ล้านคน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของตลาดเกาหลีเที่ยวไทย

ไทยจุดหมายนักท่องเที่ยวเกาหลี

สำหรับนักท่องเที่ยวเกาหลี ยังมองประเทศไทยเป็นจุดหมาย มีวัฒนธรรมอาหารไทยที่ได้รับความนิยมและกล่าวถึงอย่างมาก ไม่ต่างจากชาวเกาหลีที่นิยมกินอาหารรสจัด รสเผ็ด

และคนเกาหลีส่วนใหญ่ที่เดินทางมาไทย จะตามรอยอินฟลูเอนเซอร์ และรีวิวท่องเที่ยวออนไลน์ ปัจจุบันมีชาวเกาหลีจำนวนมากที่มีเป้าหมายเดินทางมาเชียงใหม่เพื่อตามรอยกินอาหารอร่อย

ด้านศิลปิน K-POP หลายรายได้มาถ่ายทำมิวสิกวิดีโอในประเทศไทย อาทิ Seventeen และ (G)I-DLE เมื่อภาพถูกเผยแพร่ออกไป คาดว่าจะทำให้แฟนคลับสนใจเดินทางตามรอยมาเที่ยวไทยมากขึ้น

ทั้งนี้ จากการสำรวจช่วงอายุของนักท่องเที่ยวเกาหลีที่นิยมเดินทางเที่ยวต่างประเทศทั่วโลกมีอายุระหว่าง 20-40 ปี มีสัดส่วน 30-40% ของจำนวนนักท่องเที่ยวเกาหลี ที่เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศที่ประมาณ 28 ล้านคน

ดังนั้น ททท.สำนักงานกรุงโซล จึงอยู่ระหว่างร่วมกับพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว คิดโปรโมชันหรือแคมเปญดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้

เจรจาไทย-เกาหลีใต้รอบแรกชื่นมื่น

นอกจากนี้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ได้เปิดเผยประชุมเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ใช้ชื่อว่าความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (EPA) ไทย-เกาหลีใต้ รอบแรก โดยใช้ชื่อย่อว่า ความตกลง KTEPA (เคเท็ปป้า) เมื่อวันที่ 9-11 กรกฎาคม 2567

โดยระบุว่า ไทยโดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจรจาจัดทำความตกลง KTEPA ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 9-11 กรกฎาคม 2567 โดยมีอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเป็นหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทย และนายคอนกี โร เป็นหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายเกาหลีใต้

รวมถึงมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงอุตสาหกรรม

ซึ่งการเจรจาในรอบแรกนี้ มีความคืบหน้าเป็นอย่างดีในบรรยากาศฉันมิตร

ความตกลง KTEPA จะช่วยยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ โดยคาดว่ามูลค่าการค้าระหว่างกันจะขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งจะมีการลงทุนจากเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นในประเทศไทย

ประชุม 13 คณะทำงาน

ด้านนางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้ข้อมูลว่า ในการประชุมรอบแรกมีประชุมคณะทำงาน 13 คณะ ได้แก่ 1) การค้าสินค้า 2) มาตรการเยียวยาทางการค้า 3) กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า

4) พิธีการศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า 5) มาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช 6) อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า 7) การค้าบริการข้ามพรมแดน

8) การลงทุน 9) การค้าดิจิทัล 10) การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ 11) ทรัพย์สินทางปัญญา 12) ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย

และ 13) ประเด็นทางกฎหมายและสถาบัน ซึ่งได้มีการหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องแต่ละฝ่าย และเริ่มเจรจาข้อบทภายใต้ความตกลง KTEPA ในส่วนที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ สองฝ่ายยังได้มีการจัดทำแผนงานการเจรจา

ขณะเดียวกัน เบื้องต้นกำหนดให้มีการเจรจาทั้งหมด 7 รอบ และตั้งเป้าสรุปผลการเจรจาให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2568

ขณะเดียวกัน เกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจรจาจัดทำความตกลง KTEPA ครั้งที่ 2 ในเดือนกันยายน 2567 ณ กรุงโซล

KTEPA ช่วยเปิดตลาดการค้า

ทั้งนี้จากผลการศึกษาเบื้องต้นของไทย ประเมินว่า ความตกลง KTEPA จะช่วยเปิดตลาดการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุนเพิ่มเติมจาก FTA ที่มีอยู่เดิม ได้แก่ FTA อาเซียน-เกาหลีใต้ และความตกลง RCEP

มีกลุ่มสินค้าที่คาดว่าไทยจะส่งออกไปเกาหลีใต้มากขึ้น อาทิ ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และประมง อาทิ เนื้อไก่แช่แข็งและแปรรูป อาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป ผลไม้เมืองร้อน อาทิ มะม่วง ฝรั่ง และมังคุด ผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ อาทิ แป้ง

ซอสและของปรุงรส ผลิตภัณฑ์ไม้ อาทิ ไม้แปรรูป พาติเคิลบอร์ด ไม้อัดพลายวูด และเคมีภัณฑ์ และมีสาขาบริการที่คาดว่าไทยจะได้ประโยชน์ จากการเปิดตลาดการค้าบริการของเกาหลีใต้ อาทิ บริการด้านธุรกิจ บริการการขนส่ง คลังสินค้า และบริการด้านโรงแรมและภัตตาคาร

ไทยส่งออกเกาหลี 6 พันล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตามในปี 2566 เกาหลีใต้เป็นคู่ค้าอันดับที่ 12 ของไทย โดยการค้าระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ มีมูลค่า 14,736.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ไทยส่งออกไปเกาหลีใต้ มูลค่า 6,070.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากเกาหลีใต้ มูลค่า 8,666.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เปิดรายชื่อสินค้าส่งออกไปเกาหลี

สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ น้ำมันสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ยาง น้ำตาลทราย แผงวงจรไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม

ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: การเจรจาความตกลงหุ้นส่วน เศรษฐกิจไทย – สาธารณรัฐเกาหลี (KTEPA) ครั้งที่ 1 เริ่ม 9-11 ก.ค.นี้

: เว็บไซต์ททท.