

“นิด้าโพล” เผยผลสำรวจประชาชนรอบ 1 ปี เชื่อมีดีลลับการเมือง พรรคร่วมรัฐบาล จ้องล้มนายกฯ “เศรษฐา” แต่ไม่เชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนตัวผู้นำรัฐบาลในเร็วๆ นี้
- แต่ไม่เชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนตัวผู้นำ
- แต่จะไม่เปลี่ยนในเร็วๆ นี้
วันที่ 23 มิถุนายน 2567 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้าโพล) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “Believe It or Not! ทางการเมืองไทย” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 19-20 มิถุนายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความเชื่อของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทย
การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) มีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
จากการสำรวจเมื่อถามถึงความเชื่อของประชาชนเกี่ยวกับข้อตกลงลับทางการเมือง ในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 39.77 ระบุว่า เชื่อมาก รองลงมา ร้อยละ 31.06 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ ร้อยละ 15.73 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ ร้อยละ 10.31 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย และร้อยละ 3.13 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ด้านความเชื่อของประชาชน เกี่ยวกับความพยายามของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะล้มรัฐบาลนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 31.45 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ รองลงมา ร้อยละ 26.03 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ ร้อยละ 21.83 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย ร้อยละ 17.71 ระบุว่า เชื่อมาก และร้อยละ 2.98 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ส่วนความเชื่อของประชาชน เกี่ยวกับการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีที่อาจจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 28.70 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย รองลงมา ร้อยละ 28.02 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ ร้อยละ 25.34 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ ร้อยละ 15.73 ระบุว่า เชื่อมาก และร้อยละ 2.21 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ขณะที่ ความเชื่อของประชาชนเกี่ยวกับการยุบพรรคการเมืองที่อาจจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 31.15 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ รองลงมา ร้อยละ 23.66 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ ร้อยละ 21.60 ระบุว่า เชื่อมาก ร้อยละ 20.61 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย และร้อยละ 2.98 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงความเชื่อของประชาชนเกี่ยวกับการใช้เส้นสายทางการเมืองของผู้สมัครบางคน เพื่อให้ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 55.42 ระบุว่า เชื่อมาก
รองลงมา ร้อยละ 28.55 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ ร้อยละ 7.63 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ ร้อยละ 7.48 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย และร้อยละ 0.92 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
- ประชาชนเชื่อข้อมูลรัฐบาลมากกว่าในการอภิปรายงบ
ผศ.ดร.สานิต ศิริวิศิษฐ์กุล หัวหน้าแผนกวิจัย สำนักวิจัย มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เปิดเผยว่า จากการสำรวจประชาชนจำนวน 1,500 คน ภายในช่วงวันที่ 19-20 มิ.ย.2567 เรื่องอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568
ซึ่งเป็นการบริหารจัดการงบประมาณเต็มระบบครั้งแรกของ รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน มีกรอบวงเงินรวม 3,752,700 ล้านบาท โดยรัฐบาลพยายามเน้นย้ำ การดำเนินการตามกรอบวินัยการเงิน การคลังของรัฐ พร้อมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างการเจริญเติบโตให้ประเทศพัฒนาศักยภาพอย่างยั่งยืน
โดยการสำรวจได้สอบถามถึง การติดตามการอภิปรายงบประมาณ ปี 68 หรือไม่ พบว่า ติดตาม 62.3% และไม่ติดตาม 37.7%
พร้อมทั้งได้สำรวจถึง ความเชื่อมั่นในข้อมูลของการอภิปรายงบประมาณ ปี 68 ของฝ่ายได้ ผลปรากฏว่าประชาชนผู้ให้สำรวจมีความเชื่อมั่นฝ่ายรัฐบาล 37.2% เชื่อมั่นฝ่ายค้าน 36.4% และไม่เชื่อมั่นเลย 26.4% สะท้อนให้เห็นรัฐบาล ยังคงรักษาความเชื่อมั่นของประชาชนได้อย่างมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้จากผู้สำรวจทั้งหมด ได้มีการติดตามการอภิปรายผ่านทางช่องทางออนไลน์ 59.8% ทีวี 21.8% หนังสือพิมพ์ 6.3% วิทยุ 4.7% และไม่สนใจ 7.4%
นอกจากนั้น ยังสอบถามถึงความเหมาะสมในหลักเกณฑ์ และมาตรการในแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท พบว่า มีความเห็นว่าเหมาะสมมาก 18.1% ค่อนข้างเหมาะสม 40.9% ไม่เหมาะสม 14.7%
และยังได้สำรวจว่านโยบายการ แจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาทว่าควรดำเนินการต่อไปหรือไม่ พบว่า ควรดำเนินการต่อ 57.5% ควรดำเนินการต่อแต่ควรมีการปรับปรุงเงื่อนไข 31.9% และไม่ควรดำเนินการต่อ 10.6%
พร้อมได้สอบถามถึงความคิดเห็นว่า เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท มีประโยชน์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ พบว่า มีประโยชน์ในระดับมากที่สุด 22.4% ค่อนข้างมาก 32.7% ค่อนข้างน้อย 26.5% และ น้อยที่สุด 11.4%

ข่าวเพิ่มเติม : ประชาชน ไม่ค่อยพอใจการทำงานรัฐบาล 9 เดือน ของ “เศรษฐา “