ธ.ก.ส. ไม่หวั่นรัฐบาลปรับลดงบชำระหนี้ปี 68 รองรับเงินดิจิทัล ไม่กระทบสภาพคล่อง ลุยปล่อยกู้เกษตรกร คิดดอกเบี้ยต่ำกว่าระบบ
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า กรณีรัฐบาลปรับลดงบประมาณชำระหนี้สถาบันการเงินของรัฐ ในงบประมาณรายจ่ายปี 2568 เปลี่ยนแปลงรายการ โดยโอนย้ายงบประมาณของแบงก์รัฐ 5 แห่ง วงเงิน 35,000 ล้านบาท เพื่อกันไว้ในงบกลาง ที่รองรับโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาทของรัฐบาล
ทั้งนี้งบชำระหนี้ ธนาคาร ถูกปรับลด จากเดิม ธนาคาร ขอตั้งงบฯ ชดเชยค่าใช้จ่ายและรายได้จากโครงการรัฐ 59,799 ล้านบาท โดยก้อนแรกเป็นเงินงบประมาณใช้ในการบริหารจัดการหนี้
ส่วนก้อนที่ 2 เป็นเงินงบประมาณจัดส่งไปให้สำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ใช้บริหารจัดการหนี้ วงเงิน 28,050 ล้านบาท ตัดเหลือเพียงก้อนที่ 2 วงเงิน 28,050 ล้านบาท เพื่อส่งไปให้ สบน. บริหารจัดการหนี้
อย่างไรก็ตามแม้จะยืดชำระหนี้ออกไป แต่ ธนาคาร คาดว่าจะไม่กระทบต่อสภาพคล่องของธนาคาร เพราทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยยังบริหารจัดการได้ และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภา โดยเงินปล่อยกู้ในภาคเกตรยังทำได้ตามปกติ เพื่อมุ่งใช้การตลาดนำการผลิต
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ธนาคาร มุ่งดูแลปัญหาหนี้ครัวเรือน หนี้นอกระบบ ตามนโยบายรัฐบาล เช่น สินเชื่อ อสม. รายละไม่เกิน 20,000 บาท บอร์ด ธ.ก.ส. ได้อนุมัติขยายเพิ่มเป็นรายละ 50,000 บาท เริ่มวันที่ 9 ก.ย.นี้ วงเงิน 20,000 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.67 ต่อเดือน ถูกว่าหนี้นอกระบบ
สำหรับกลุ่มลูกค้าเกษตรกร ยอมรับว่าเป็นกลุ่มลูกค้า มีความเสี่ยง จากภูมิอากาศ ราคาตลาดโลกผันผวน ไม่มีกำลังสต็อกสินค้า จึงต้องใช้เวลายกระดับ เพื่อปรับคุณภาพสินค้าเกษตรให้มีความเข้มแข็ง
ยกระดับกาแฟโรบัสต้า
นอกจากนี้ยังเยี่ยม จังหวัดชุมพร ซึ่งถือเป็นแหล่งเพาะปลูกกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้ามากที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากมีสภาพภูมิศาสตร์และอากาศที่เหมาะสม โดยในส่วนของ ธนาคาร พร้อมยกระดับผู้ประกอบการกาแฟกว่า 21 เครือข่ายในจังหวัดชุมพร ด้วยการชูกาแฟโรบัสต้า ของดีจังหวัดชุมพร มาสร้างมาตรฐานในทุกขั้นตอน
ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวม การทำแพคเกจจิ้ง การแปรรูป และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีมูลค่าสูง โดยเชื่อมโยงกับเครือข่ายด้านการวิจัยและเทคโนโลยีมาเติมองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการในการปรับเปลี่ยนการผลิตให้ได้มาตรฐาน รวมถึงบริหารจัดการช่องทางการตลาด
อาทิ การจำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือการนำลูกค้าไปศึกษาดูงานผ่านโครงการต่างๆ อันเป็นการเพิ่มโอกาสทางการตลาดและช่องทางการจำหน่าย
ทั้งนี้ ธนาคาร มีนโยบายในการจัดทำฐานข้อมูล (Database) ที่มีการเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ความต้องการตลาดและกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำมาใช้ในการวางแผน คิดค้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร รวมถึงการบริหารจัดการการผลิตที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุด
ควบคู่กับการ ต่อยอดสินค้าให้ได้มาตรฐานสากล เพื่อขยายฐานไปสู่ตลาดที่มีกำลังซื้อสูง รวมถึงการเติมเงินทุนให้เกษตรกรในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนผ่านสินเชื่อที่หลากหลาย เช่น สินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย สินเชื่อแทนคุณ และสินเชื่อ BCG เป็นต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ธ.ก.ส. จัดมาตรการฟื้นฟู-เสริมสภาพคล่อง ช่วยเกษตรกรถูกน้ำท่วมในภาคเหนือ