“เสริมศักดิ์” ส่งหนังสือ ย้ำ! มาตรการความปลอดภัย หลังเรือนทท.จีนชนหน้าวัดอรุณ

เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช
นาย เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

“เสริมศักดิ์” ส่งหนังสือถึงสถานทูต ย้ำ! มาตรการความปลอดภัย ในการดูแลนักท่องเที่ยวของประเทศไทย เหตุเรือนักท่องเที่ยวจีนชนหน้าวัดอรุณ พร้อมกำชับถึงมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกในอนาคต

  • กำชับถึงมาตรการป้องกัน
  • เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นในอนาคต

วันที่ 8 มิถุนายน 2567 นาย เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขอแสดงความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 6 มิถุนายน 2567 กรณีที่นักท่องเที่ยวชาวจีนได้รับบาดเจ็บจากเรือหางยาวท่องเที่ยวชน กับเรือข้ามฟากของกองทัพเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา

บริเวณหน้าวัดอรุณราชวรารามฯ โดยมีหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย เพื่อแสดงความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการสื่อสารตอกย้ำถึงมาตรการด้านความปลอดภัยในการดูแลนักท่องเที่ยวของประเทศไทย

นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากตำรวจท่องเที่ยวว่าได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บ และได้อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ในการเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลหัวเฉียว ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งหมดเป็นชาวจีน จำนวน 4 ราย (ชาย 2 คน หญิง 2 คน)

ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการกระแทก เมื่อได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์แล้วจึงอนุญาตให้กลับที่พักได้ โดยนักท่องเที่ยวทั้งหมดมีกำหนดเดินทางกลับประเทศจีนในวันที่ 7 มิถุนายน 2567

ทั้งนี้ เนื่องจากการรับรองความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวเป็นประเด็นที่ประเทศไทยให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก จึงมีข้อสั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยวประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า ผู้ประกอบการเรือ ผู้ควบคุมเรือ เพื่อ เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย และกำชับถึงมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกในอนาคต

ขณะที่นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า สำหรับตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของภาคการท่องเที่ยวของไทยนั้น ปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาแล้วประมาณ 3 ล้านคน แต่เชื่อว่า หลังจากสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมิถุนายนนี้ เป็นต้นไป ตัวเลขมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อเนื่อง

และจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ในเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป บวกกับแคมเปญที่ทาง ททท.มีแผนจะจัดขึ้น ทั้งเทศกาลไหว้พระจันทร์ การเปิดตัวลาบูบู้ ไทยแลนด์ เอดิชั่น และเทศกาลหนีห่าว ซึ่งจะยิ่งกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีน เดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น

สำหรับลิขสิทธิ์ลาบูบู้ ไทยแลนด์ เอดิชั่น จะเป็นของ ป๊อปมาร์ต โดยจะเปิดขายอาร์ตทอยเวอร์ชั่นนี้ในร้านป๊อปมาร์ต ประเดิมที่สาขาใหม่ เมกา บางนา ก่อนเป็นสาขาแรก จากนั้นค่อยเปิดขายที่สาขาอื่นในไทยช่วงเฟสแรกประมาณ 3 เดือน ก่อนจะนำไทยแลนด์ เอดิชัน ไปขายในป๊อปมาร์ตที่ประเทศจีนต่อไป

นอกจากนี้ ในช่วงวันที่ 23-25 กรกฎาคมนี้ ททท.ยังมีแผนไปโรด์โชว์ใน 3 เมืองรองของสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่ เมืองฉางชา (มณฑลหูหนาน) เมืองซีอาน (มณฑลส่านซี) และเมืองเจิ้งโจว (มณฑลเหอหนาน)

นอกจากนี้ ในด้านประชาสัมพันธ์เรื่องท่องเที่ยวของไทย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การประชาสัมพันธ์ซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ได้ถูกกระจายออกไป ผ่านการเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ของกองถ่ายต่างประเทศ

อาทิ หนังดังที่มีความโดดเด่น ซีรีส์ เดอะ ไวท์ โลตัส ซีซั่น 3 ที่ถ่ายในไทยถึง 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต สมุย รวมถึงเรื่องล่าสุด คือ หนังฟอร์มยักษ์ระดับโลกจากฮอลลีวูด เรื่อง จูราสสิคเวิลด์ ภาค 4 ที่มีกำหนดยกกองมาถ่ายทำภาพยนตร์ในจังหวัดกระบี่ และตรัง

ทั้งนี้ คาดว่าจะสร้างเงินสะพัดได้กว่า 650 ล้านบาท ภายในระยะเวลาถ่ายทำ 1 เดือน ทำให้การที่ประเทศไทยได้ผู้จัดผู้สร้างหนังระดับโลกเข้ามาใช้พื้นที่เป็นสถานที่ถ่ายทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงความพร้อมของประเทศไทย

ทั้งในแง่ของแหล่งท่องเที่ยว สถานที่ถ่ายทำ นักแสดงประกอบ กฎระเบียบ สิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่จะได้รับ เมื่อมีค่ายใหญ่ๆ เข้ามา จะทำให้ประเทศไทยเป็นสวรรค์ของกองถ่ายทำทั่วโลก เพราะตอนนี้เราก็เห็นว่าหลายประเทศเลือกประเทศไทย

“ททท.จะเดินหน้าทำงานร่วมกับกรมการท่องเที่ยวในส่วนของการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ทั้งจุดหมายปลายทางที่เป็นไฮไลต์อยู่แล้ว รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวที่เริ่มฮอตฮิตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ สามารถดึงดูดกองถ่ายจากต่างประเทศเข้ามามากขึ้น

ทั้งกองถ่ายหนัง เอ็มวี โฆษณา และอื่นๆ ด้วย เนื่องจากทุกครั้งที่เกิดการถ่ายทำ เม็ดเงินจะกระจายรายได้ลงสู่พื้นที่ และชุมชนได้อย่างแท้จริง”

สำหรับข้อเสนอของเอกชน ในการสร้างสวนสนุก หรือ ธีมปาร์กขึ้นมา เพราะไทยมีร่องรอยไดโนเสาร์ และซากดึกดำบรรพ์ ที่มีความได้เปรียบกว่าประเทศอื่น อันนี้ถือเป็นการการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแบบสร้างด้วยมือมนุษย์ หากรัฐบาลไม่ได้เป็นส่วนสนับสนุนในการสร้าง

ก็ต้องมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์พิเศษให้ เพื่อสร้างความน่าดึงดูดใจ ในการลงทุนของภาคเอกชน ทั้งนักลงทุนไทย และต่างประเทศด้วย

หลังจากนั้นฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการตลาดและประชาสัมพันธ์ ก็ต้องนำแหล่งท่องเที่ยวใหม่เหล่านี้ไปขายออก เน้นการให้สิทธิพิเศษในแง่การลดค่าใช้จ่าย รวมถึงอำนวยความสะดวกให้การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ มากขึ้น

“การเพิ่มเส้นทางท่องเที่ยว จะมีการศึกษา และเปิดตัวเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ออกมาอีกแน่นอน โดยต่อยอดจากงานอิกไนท์ ไทยแลนด์ ในส่วนของจังหวัดต่างๆ จะหาเสน่ห์ของแต่ละจังหวัด เพิ่มความโดดเด่นขึ้นมาให้เป็นจุดขาย

ซึ่งมีเสน่ห์ 5 อย่าง ที่รัฐบาลเน้นย้ำ อาทิ อาหาร การแสดงศิลปวัฒนธรรมประเพณีไทย แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ผ้าไทย สินค้าไทย และกิจกรรมด้านงานกีฬา ที่จะจัดยิ่งใหญ่เป็นมหกรรมมากขึ้น” นางสาวฐาปนีย์ กล่าว

ส่วนการ กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย ททท. ได้จัดงาน “เปิดตัวเมืองน่าเที่ยว” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการนำเสนอเมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศไทย ณ จริงใจมาร์เก็ต จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายนนี้

โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน ในเวลาประมาณ 10.30 น. และร่วมกิจกรรม Kick Off Road Trip เปิดเมืองน่าเที่ยว เส้นทางเชียงใหม่ – ลำพูน – ลำปาง

สำหรับกิจกรรมภายในงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ยกเสน่ห์ไทยของเมืองน่าเที่ยว 5 ภูมิภาค ตามแนวคิด 5 Must Do in Thailand นำเสนออาหาร สินค้า หัตถกรรม การแสดงศิลปวัฒนธรรม เอกลักษณ์ของแต่ละภูมิภาค พร้อมเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงเมืองน่าเที่ยว

เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว ให้ทุกฤดูกาลเป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวไทย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพ และความพร้อมทางการท่องเที่ยวของเมืองน่าเที่ยวทั้ง 5 ภูมิภาค สร้างการรับรู้ สร้างแรงบันดาลใจในการออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย

ขณะที่ ภาพรวมสถานการณ์การท่องเที่ยวในภาคเหนือช่วงเดือนมกราคม – เมษายนของปีนี้ (2567 ) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีนักท่องเที่ยวชาวไทยขยายตัวร้อยละ 2.18 ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัวร้อยละ 26.57

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ก. ท่องเที่ยว ปลื้มนำไทยดึงผู้ผลิตหนังโลก เฮลงทุน 3.69 พันล้าน

: ททท. จ่อดึงกองถ่ายต่างประเทศ โปรโมตซอฟต์พาวเวอร์ไทย