วว. ชู อว.แฟร์ รับจองทัวร์สถาบันวิจัยสะแกราช เที่ยวยั่งยืน

สถาบันวิจัย วว.
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เปิดรับจองเที่ยวสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช จ.นครราชสีมา พื้นที่ต้นแบบท่องเที่ยวยั่งยืนของเมืองไทย


วว.เปิดจอง “ทัวร์เชิงนิเวศสถานีวิจัยฯ สะแกราช” ในงานใหญ่ อว.แฟร์ ชูพื้นที่ต้นแบบเที่ยวยั่งยืนลดคาร์บอนปีละกว่า 1.5 แสนตัน แหล่งรวมนักวิจัย นักศึกษา ไทยและทั่วโลก ชวนสำรวจโลกยุคใหม่กับ 5 หน่วยงาน วันนี้-28 ก.ค.67 ที่ศูนย์สิริกิติ์

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) รายงานว่า  วว.เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)  นำร่องส่งเสริมโมเดลการท่องเที่ยวยั่งยืน ที่มีส่วนร่วมลดก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนโดยได้เปิดรับจองการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ “สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช …แหล่งสงวนชีวมณฑลของโลก”  จังหวัดนครราชสีมา ในงาน “อว. แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND” ระหว่างวันนี้-28 กรกฎาคม 2567  เวลา 09.00 – 20.00 น.  ที่บูธ วว. บริเวณโซน E : Science for  All  Well-being  เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 1-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 

สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช
ภายในสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช มีบริการรถรางนำชมป่าธรรมชาติ ที่นักเรียน นักศึกษา ไทยและต่างชาติ นิยมไปใช้บริการ

นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืน “สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช” ปัจจุบันมีเนื้อที่ประมาณ 48,750 ไร่ ซึ่งเป็นสถานที่เพื่อการวิจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยาป่าเขตร้อน มีนักวิจัยทั้งในและต่างประเทศเข้ามาศึกษาอย่างต่อเนื่องปัจจุบันในพื้นที่มีงานวิจัยกว่า 920 ชุด รวมทั้งเป็นห้องปฏิบัติการธรรมชาติ รองรับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา เพื่อการศึกษาและวิจัยทางธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งได้จัดทำผลประเมินศักยภาพการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปริมาณคาร์บอนสะสมในป่าที่สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราชแห่งนี้สามารถดูดซับปริมาณคาร์บอนได้สูงถึงปีละ 1.5 แสนตัน

การนำเสนอธีม SCIENCE for All Well Be-ing | วิทย์เพื่อชีวิตผาสุก มุ่งตอกย้ำถึง “วิทยาศาสตร์…เพื่อสังคมที่ดี ลดความเหลื่อมลํ้า และชีวิตที่ผาสุก”  ภายในงาน “อว.แฟร์” เปิดให้ชมความคืบหน้าโลกยุคใหม่ทั้งนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ที่น่าสนใจของ 5 หน่วยงาน 5 โซน ได้แก่

การท่องเที่ยว 3 มรดกโลกนครราชสีมา
สถานีวิจัยสะแกราช ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งชีวมณฑล และเป็นหนึ่งในเส้นทางการท่องเที่ยว 3 มรดกโลกนครราชสีมา
  • โซนที่ 1 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) มีไฮไลต์เด่น ๆ  4 จุด ได้แก่

จุดที่1 นิทรรศการผลงานวิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อสุขภาพ วว. อาทิ ผัก/สมุนไพร/ดอกไม้กินได้ ผักพระราชา “โมโรเฮยะ” ผลิตภัณฑ์อาหารทางเลือก อาหาร FODMAP เวชสำอางจากพืชท้องถิ่นของไทย รวมทั้งนวัตกรรมทางการแพทย์ขั้นสูง STEM CELL

จุดที่2 กิจกรรมสาธิต/ฝึกอบรม เมนูอาหาร เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ อาทิ ผิวสวยใสด้วยสมุนไพร สุขภาพดีด้วยอาหารฟังก์ชั่น เครื่องดื่มจากดอกไม้กินได้ สวนสวยในขวดแก้ว น้ำลูกหยีสูตรแคลอรี่น้อยและน้ำพริกสูตรเฮลตี้ บริการฟรีทุกวัน

จุดที่ 3 นวดแผนไทยด้วยสมุนไพรเจลลูกประคบเป็นผลิตภัณฑ์เจลจากสมุนไพรไทย สกัดน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพรใช้ในลูกประคบ เช่น ไพล ขมิ้นชัน มะกรูด ตะไคร้

จุดที่ 4 จำหน่ายสินค้างานวิจัยราคาพิเศษ และสินค้านวัตกรรมจากผู้ประกอบการพันธมิตร  วว.ได้นำองค์ความรู้ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม สนับสนุนส่งเสริมเพิ่มมูลค่าผลผลิตการเกษตรหรือพืชอัตลักษณ์ในพื้นที่สู่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ มีศักยภาพจำหน่ายเชิงพาณิชย์ทั้งภายในและต่างประเทศ

  • โซนที่ 2 หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) มีกิจกรรมแรลลี่แนะนำให้คนเข้าชมนิทรรศการความรู้  3 จุด คือ

จุดที่1 เมืองแห่งการเรียนรู้ หรือ Active learning for all นำเสนอภายใต้แนวคิด “เมืองแห่งการเรียนรู้ (Learning City) จำลองเมืองแห่งการเรียนรู้ โดยนำกิจกรรมเด่นจากงานวิจัย 20 เมือง มาร่วมจัดแสดง และเรียนรู้ผ่านเวิร์คช้อป

จุดที่ 2 Culture Connex นำเสนอระบบการบริหารจัดการพื้นที่กลาง เป็นแหล่งรวมผลผลิตจากการหนุนทุนทางวัฒนธรรม นำร่องกลไกการเชื่อมต่อทุนทางวัฒนธรรมทั่วประเทศและกิจกรรมการแสดงมาให้ชมได้ตลอดทุกวัน

จัดที่3 ขายสินค้านวัตกรรมที่ บพท. เข้าไปสนับสนุนงานวิจัยกว่า 15 ร้านค้า เช่น ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมกระเป๋าสานจากไผ่ “MORADOK” ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมผ้าใยกล้วย ผ้าใยผักตบชวา ผ้าห้อมพลาสม่า เครื่องประดับเวียงโกศัย ผ้าไหมเส้นใยฟางข้าว น้ำผึ้งชันโรง มะนาวผงฟรีซดราย พริกไทย GI ตรัง มะขามสามเกลอ

  • โซนที่ 3 หน่วยงาน สถาบันวิทยาลัยชุมชน มีภารกิจสร้างโอกาสทางการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างอาชีพและรายได้ ด้วยวิจัยและนวัตกรรมทชุมชน นำเสนอผลงานของสถาบันและวิทยาลัยชุมชน 20 แห่ง โดยไฮไลท์ เป็นผลงานจากการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมชุมชนโดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ร่วมสมัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และสาธิตการจักสาน-สร้างสรรค์สู่การส่งออก การทักทอสายใยแห่งศิลป์ ทอผ้าพื้นเมือง และกิจกรรมสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย
  • โซนที่ 4 ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELS ชูแนวคิด The Treasures of Herbal Health Cohesive Ecosystem ต่อยอดงานวิจัย เพิ่มคุณค่าสมุนไพรด้านการแพทย์และสุขภาพ เพื่อพัฒนาสู่เชิงพานิชย์ นำผลงานนวัตกรรมเครื่องสำอาง เวชสำอาง ยาที่พัฒนาจากสารสกัดธรรมชาติและสมุนไพร มาจัดแสดงและขายราคาพิเศษกว่าปกติ
  • โซนที่ 5 สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ นำเสนอแนวคิด มาตรวิทยา… เพื่อระบบนิเวศ EV ที่ยั่งยืน มุ่งสร้างความน่าเชื่อถือในแบรนด์ให้ผู้เข้าชมนิทรรศการ และผู้ทำกิจกรรมได้ทดลองทำโพสต์การ์ดของตนเองแล้วรับของที่ระลึกกลับบ้าน

เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : อว. สั่ง บพท. MOU 7 องค์กร ปั้นอาชีพ เพิ่มรายได้ ปลดล็อก ชายแดนใต้