

หลังประเทศไทยสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม หลังวุฒิสภาลงมติรับรองเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2567 เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการสนับสนุนสิทธิและความเท่าเทียมของชาว LGBTQIA+
“Pride Friendly Destination” ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยว่า “พร้อมนำอุตสาหกรรมท่องเที่ยว Pride Friendly Destination และไทยเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพดึงงาน World Pride 2030 มาจัดในไทยปี 2573 เพื่อนำรายได้เข้าประเทศ”
ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เผยว่า นอกจากกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะสร้างความสุขให้กับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศแล้ว ยังเป็นการประกาศบอกชาวโลกให้ได้รู้ว่า “ไทยเป็นสวรรค์ของความเท่าเทียม” ที่จะเป็นจุดขายการท่องเที่ยวอย่าง Amazing Thailand และ Paradise for All ที่รองรับกลุ่มนักเดินทาง LGBTQIAN+ จากทั่วโลกอย่างแท้จริง
อโกด้า เผยงานวิจัย หลัง ก.ม. สมรสเท่าเทียมผ่าน คาดดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยว อโกด้า เผยงานวิจัยว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมของไทยจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 4 ล้านคนต่อปี และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ภายใน 2 ปีหลังจากที่กฎหมายมีผลบังคับใช้
สร้างผลกระทบเชิงบวกให้ประเทศไทยอย่างมาก
- ผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยเพิ่มขึ้น 0.3%
- เพิ่มรายรับจากการท่องเที่ยวโดยกระจายไปยังหลายภาคส่วน อาทิ การจองที่พัก, การบริการอาหารและเครื่องดื่ม, การจับจ่ายซื้อสินค้า, การเดินทางภายในประเทศ รวมถึงความบันเทิงและบริการทางการแพทย์
- สนับสนุนการจ้างงานประจำอีกกว่า 152,000 ตำแหน่ง
นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับการสนับสนุนสิทธิ LGBTQIA+
การศึกษายังชี้ให้เห็นด้วยว่า นักท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่จะเลือกเดินทางไปยังประเทศที่สนับสนุนสิทธิของชาว LGBTQIA+ โดย 43% ของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะยกเลิกการเดินทางทันทีหากรู้สึกว่าประเทศปลายทางไม่ได้สนับสนุนสิทธิของชาว LGBTQIA+
ทั้งนี้ ผลการวิจัยเกี่ยวกับ ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากกฎหมายสมรสเท่าเทียมต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย จัดทำโดยอโกด้าร่วมกับบริษัท Access Partnership โดยการวิเคราะห์จากประเทศที่ออกกฎหมายสมรสเท่าเทียม โดยผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า ประเทศที่มีการออกกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะเห็นการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 10% ภายในสองปีหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้
การผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมครั้งนี้ ไม่เพียงสะท้อนถึงการพัฒนาทางสังคมของประเทศไทย แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ระดับโลกในฐานะจุดหมายปลายทางที่เปิดกว้างและให้ความสำคัญกับทุกความหลากหลายอย่างแท้จริง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Agoda
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : “ท่องเที่ยว-5 อุตฯ” งัดกม. สมรสเท่าเทียม โกยเงิน LGBTQIAN+