KBTG เปิดตัวเงินทุน KXVC มูลค่า 3,500 ล้านบาทลงทุนใน “AI-fintech “

กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป เปิดตัวเงินลงทุน KXVC มูลค่า 3,500 ล้านบาท เพื่อลงทุนใน AI, Web3 และ Deep Tech fintech startups

  • เพื่อสร้างเครือข่ายในภูมิภาค ทั้งนี้ในเอเชีย-แปซิฟิค
  • ภูมิภาคที่สังคมดิจิทัลกำลังเติบโตอย่างมาก
  • ผู้ใช้งานบนโลกดิจิทัลราว 400 ล้านคน

นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยว่า จากการเปิดตัวลงทุน KXVC (Venture Capital) มูลค่า 3,500 ล้านบาท เพื่อลงทุนใน AI, Web3 และ Deep Tech fintech startups และเครือข่ายกองทุนชั้นนำทั่วโลก เพื่อสร้างเครือข่ายในภูมิภาค ทั้งนี้ในเอเชีย-แปซิฟิค โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคสังคมดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างมาก ด้วยประชากรรวมกว่า 680 ล้านคน มูลค่าทางเศรษฐกิจดิจิทัลกว่าหนึ่งล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ และผู้ใช้งานบนโลกดิจิทัลราว 400 ล้านคน  ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับกลุ่มผู้ก่อตั้งระดับโลก ในการขับเคลื่อนการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกด้วยการผนึกกำลังที่แข็งแกร่งกับธนาคารกสิกรไทยและพันธมิตร

นายกัมปนาท วิมลโนท Managing Director, KXVC กล่าวว่า  ทั้งนี้เพื่อสอดรับกับเทรนด์ของเทคโนโลยีที่ผ่านมา เราต้องการผลักดันให้ AI, Web3 และ Deep Tech เกิดการนำไปใช้งานจริง และ APAC ก็เป็นหนึ่งในตลาดที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่ง KXVC ให้ความสำคัญกับ AI, Web3 และ Deep Tech ในด้านการเงินเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ธุรกิจ และ SME ในเอเชีย-แปซิฟิค สำหรับการลงทุนในด้าน AI นั้น KXVC ต้องการลงทุน AI สำหรับผู้ใช้งาน, ระบบความปลอดภัยในด้านไซเบอร์ (cybersecurity), AI/ML tools (เช่น deployment platforms, data annotation, model optimization), และ problem-specific AI startups.  

ในด้าน Web3, KXVC เจาะจงในด้านโครงสร้าง Web3, nodes validators, ผู้ให้บริการ (RPC providers), middlewares, เทคโนโลยี modularity, privacy, ZKP, wallets, alternative L1/L2s, shared securities และ LsdFi  

ทั้งนี้ KX ได้ร่วมมือกับเครือข่ายกองทุนและบริษัทชั้นนำของโลกใน AI, Web3 และ Deep Tech เช่น MagicLink, Transak, 1KX, Hashkey Capital, Symbolic Capital, L2 Iterative Ventures , Instari Ventures, และ aifund.ai ซึ่ง KXVC จะสานต่อการลงทุนและการดำเนินงานของ KX และจะลงทุนในกองมากกว่า 30 กองทุนจากทั่วโลก โดยโฟกัสในสหรัฐอเมริกา ยุโรป อิสราเอล และเอเชีย-แปซิฟิค