JUZMATCH สตาร์ทอัพเครือ ‘แสนสิริ’ ปลุกอสังหาโต 2 ปีซ้อน ปี’66 ดันแพลตฟอร์มลุยเพิ่มยอดลงทุนใหม่ ตั้งเป้าเพิ่ม 66%



  • JUZMATCH สตาร์ทอัพเครือ ‘แสนสิริ’ เปิดทางเลือกใหม่ “ผู้ซื้อ-ผู้ขาย-นักลงทุน”
  • ใช้แพลตฟอร์มแก้อุปสรรค ดันยอดธุรกิจอสังหาพุ่ง 2 ปีซ้อนเกิน 100%
  • ปีเถาะตั้งเป้าโต 66% ลุยจับคู่แล้ว 600 หลัง เดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มลงทุนใหม่เต็มคาราเบล

นายรัตนพล มนต์มหาจินดา CEO & Co-Founder JUZMATCH เปิดเผยว่า ในฐานะแพลตฟอร์มการเช่าซื้อและลงทุนอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกของไทย หนึ่งในสตาร์ทอัพที่มี ‘แสนสิริ’ ร่วมลงทุน หลังเปิดตัว JUZMATCH โดยได้ออกแบบโมเดลธุรกิจใหม่ มุ่งแก้อุปสรรคหรือ Pain Point ในวงการอสังหาฯ เสนอทางเลือกที่ดีขึ้นให้กับผู้ใช้บริการภายในเวลาเพียง 2 ปี สามารถส่งมอบบ้านไปแล้วกว่า 700 หลัง สร้างมูลค่าทรัพย์สินในโมเดลเช่าซื้อกว่า 3,000 ล้านบาท เติบโตเกินกว่า 100 % โดยมีผู้ใช้แพลตฟอร์มกว่า 1,500 ราย ปี 2566 มีสัญญาณกำลังซื้อภายในและต่างชาติตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว จึงตั้งเป้าส่งจะมอบบ้าน 600 หลัง สร้างการเติบโต 66% ด้วยมูลค่าสะสมกว่า 3,000 ล้านบาท และจะเพิ่มผู้ใช้แพลตฟอร์มขยับขึ้นเป็น 2,500 ราย

โดยแพลตฟอร์ม JUZMATCH เน้นให้บริการ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่

กลุ่มที่ 1 ผู้ซื้อ ผู้ที่อยากมีบ้าน แต่ยังไม่พร้อมกู้ธนาคาร สามารถเช่าซื้อที่อยู่อาศัยและปรับปรุงเครดิตจนสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้

กลุ่มที่ 2 นักลงทุน ผู้สนใจลงทุนอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่มีประสบการณ์หรือกลัวต้องแบกรับความเสี่ยง จึงเหมาะกับผู้ที่สนใจการลงทุนแต่ขาดประสบการณ์

กลุ่มที่ที่ 3 ผู้ขาย เจ้าของทรัพย์หรือบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ต้องการขายที่อยู่อาศัย ช่วยให้เข้าถึงตลาดกลุ่มลูกค้าใหม่ บนระบบป้องกันความเสี่ยงจากโครงสร้างของโมเดลธุรกิจ ที่รับประกันความเสี่ยงทุกด้าน พร้อมทีมงานมืออาชีพที่จะคอยให้คำแนะนำและดูแลช่วยเหลือตลอดอายุสัญญา

สถานการณ์ปี 2566 มองเห็นสัญญาณดีของอสังหาริมทรัพย์จากกำลังซื้อของคนในประเทศเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง และต่างชาติกลับมาเที่ยวในเมืองไทย ผนวกกับแนวโน้มการเช่าซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากกลุ่มผู้มีข้อจำกัดในการซื้อบ้านมีจำนวนสูงขึ้น โดยเฉพาะ กลุ่มผู้มีอาชีพอิสระ ค้าขายออนไลน์ อ้างอิงข้อมูลธนาคารพาณิชย์ พบว่า ปัจจัยที่ 1 แต่ละไตรมาสสถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยของลูกค้ากลุ่มดังกล่าวสูงกว่า 100,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นชัดเจนถึงปัญหาคนยังเข้าไม่ถึงแหล่งเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นของชีวิต ปัจจัยที่ 2 ดัชนีการเติบโตของราคาอสังหาริมทัพย์เพิ่มสูงขึ้นทุกปี ทำให้ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ ต้องใช้เงินสดมากขึ้นทุกปีเพื่อซื้อบ้าน

ทาง JUZMATCH จึงเห็นโอกาสจาก 2 ปัจจัยดังกล่าว ในการเข้าไปเติมเต็มความต้องการตลาดและปลดล็อกการครอบครองที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น แล้วยังช่วยให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์สร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้น

นายณัฏฐ์ บุญญาภิบาล COO & Co-Founder JUZMATCH กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้ แพลตฟอร์ม JUZMATCH ที่อยู่ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ 1,500 ราย แบ่งเป็น กลุ่มที่ 1 ผู้ซื้อ 800 ราย กลุ่มที่ 2 นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ 300 รายกลุ่มที่ 3 ผู้ขาย 400 ราย ปี 2566 ตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนผู้ใช้แพลตฟอร์มเป็น 2,500 ราย เพื่อกระจายกลุ่มลูกค้าหลากหลายให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น พร้อมกับจับคู่ผู้เช่าซื้อและนักลงทุนทั่วประเทศแล้ว 18 จังหวัด แบ่งเป็น  1.อสังหาฯใหม่87% และ 2.เป็นอสังหาฯมือสอง 13% ทรัพย์ทั้งหมด เป็นอสังหาฯ ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของไทย สัดส่วน 75%

ปี 2566 วางกลยุทธ์เดินหน้าพัฒนา “ผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่” ตอบโจทย์นักลงทุนมากขึ้น เช่น การลงทุนด้วยเงินสด ด้วยวิธีลงทุนและร่วมเป็นเจ้าของบางส่วนในสินทรัพย์นั้น หรือเรียกว่า Cash-Based Fractional Ownership ผ่านระบบ Smart Contract บนเทคโนโลยี Blockchain เพื่อให้นักลงทุนเกิดความปลอดภัยและการทำธุรกรรมง่ายขึ้น

“แพลตฟอร์ม JUZMATCH” มีจุดเด่นด้านการนำเสนอโซลูชั่นใหม่ตอบสนองความต้องการกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด ทั้ง “กลุ่มผู้ซื้อ” ที่มีกำลังซื้อสูงและมีกำลังผ่อน แต่ติดข้อจำกัดเรื่องกู้ธนาคาร เช่น กลุ่มอาชีพฟรีแลนซ์ อินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงกลุ่มผู้ที่อายุยังน้อยแต่ในอนาคตมีศักยภาพเพราะรายเติบโตสูง เช่น วิศวกร แพทย์ จบใหม่ จึงไม่สามารถซื้อบ้านที่ต้องการได้ในปัจจุบัน

ส่วน “กลุ่มนักลงทุน” ที่ชื่นชอบการลงทุนอสังหาฯ กับนักลงทุนหน้าใหม่ไม่คุ้นเคยกับการลงทุน ไม่มีประสบการณ์ในตลาดนี้ แต่มองหาการลงทุนใหม่ ๆ ที่สะดวก ความเสี่ยงต่ำ และไม่จำเป็นต้องใช้เงินสด จึงพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักลงทุนยุคใหม่ ช่วยบริหารการลงทุนให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัย

ขณะที่ “กลุ่มผู้ขาย” เจ้าของบ้านหรือเจ้าของโครงการ ต้องการขายบ้าน แต่ประสบปัญหาลูกค้ากู้ไม่ผ่านทั้งที่มีกำลังซื้อ แล้วไม่มีบันทึกรายได้อยู่ในระบบ ทางแพลตฟอร์มจะช่วยเติมเต็มช่องว่างให้สามารถขายบ้านกับลูกค้าที่มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้นได้ต่อไป

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใย สามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen