ม.ค.67 ทั่วโลกแห่เที่ยวญี่ปุ่น 2.69 ล้านคน

ม.ค.67 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเที่ยวญี่ปุ่นแตะ 2.69 ล้านคน เพิ่มขึ้น 79.5% เทียบเดือนม.ค.66 ฟื้นกลับมาอยู่ระดับเดียวกับเดือนม.ค.62 ก่อนโควิด-19 ระบาด พร้อมปรับลดมุมมองด้านเศรษฐกิจเดือนก.พ.เป็นครั้งแรกรอบ 3 เดือน

  • พุ่งเฉียด 80% ฟื้นกลับมาเท่าก่อนโควิดระบาด
  • แต่ปรับลดมุมองเศรษฐกิจหลังเข้าสู่ภาวะถดถอย
  • เหตุกำลังซื้ออ่อนแอ-รายได้ยังต่ำกว่าเงินเฟ้อ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังญี่ปุ่นยกเลิกมาตรการควบคุมการผ่านแดนเพื่อป้องกันโควิด-19 เมื่อเดือนเม.ย.66 นอกจากนั้นยังได้รับอานิสงส์จากเงินเยนที่อ่อนค่าลง

โดยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เที่ยวญี่ปุ่นสูงสุด คือ เกาหลีใต้ 857,000 คน เพิ่มขึ้น 10.0% เมื่อเทียบกับเดือนม.ค.62 รองลงมาคือ ไต้หวัน  492,300 คน เพิ่มขึ้น 27.0% ส่วนจีนอยู่ที่ 415,900 คน ลดลง 44.9% เพราะจีนผ่อนคลายข้อกำหนดด้านการเดินทางช้ากว่าประเทศอื่นๆ

ส่วนชาวญี่ปุ่นที่เดินทางไปต่างประเทศในเดือนม.ค.67 อยู่ที่ 838,600 คน เพิ่มขึ้น 89.3% เมื่อเทียบเดือนม.ค.66 แต่ลดลง 42.3% เมื่อเทียบกับเดือนม.ค.62

ขณะที่องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) ระบุว่า แม้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงทางตอนกลางของญี่ปุ่นในวันปีใหม่ จนนักท่องเที่ยวบางส่วนจากเกาหลีใต้และจีนยกเลิกการเดินทาง แต่ผลกระทบที่มีต่อการท่องเที่ยวอยู่ในวงจำกัด

อย่างไรก็ตาม แม้การท่องเที่ยวญี่ปุ่นฟื้นตัวขึ้น แต่รัฐบาลได้ปรับลดมุมมองเศรษฐกิจในเดือนก.พ.เป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เหตุการใช้จ่ายผู้บริโภคซบเซา การเติบโตของค่าจ้างที่ชะลอตัวและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมย่ำแย่

นอกจากนี้ ยังได้ปรับลดการประเมินการใช้จ่ายของผู้บริโภคเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี เนื่องจากเงินเดือนเพิ่มขึ้นไม่ทันเงินเฟ้อ และยังคงส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน พร้อมระบุว่า การฟื้นตัวของการใช้จ่ายเหมือนจะหยุดชะงัก สร้างความท้าทายสำหรับธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่กำลังแสวงหาแนวทางในการยุตินโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษในปีนี้

การปรับลดมุมมองเศรษฐกิจดังกล่าวมีขึ้นหลังทางการญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างเหนือความคาดหมายในไตรมาส 4/66 เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอ ทำให้ญี่ปุ่นสูญเสียสถานะการเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกให้กับเยอรมนี