iPhone 13 สี Starlight iPhone 13 Pro Max 13 สี Sierra Blue คุ้มค่ากับการรอคอย.. ดีกว่าที่คาดหวัง

ไอโฟน 13 (iPhone 13) ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 8 .. สมกับการรอคอยสำหรับแฟนๆของไอโฟนและผู้ที่ถึงเวลาอัพเกรดสมาร์ทโฟนใหม่

iPhone 13 มาถึงมือทีมงาน The Journalistclub ป็นที่เรียบแล้ว 2 รุ่นด้วยกันคือ iPhone 13 สีขาว Starlight ขนาด 512 GB และตัวท็อปสุด iPhone 13 Pro Max สีฟ้า Sierra Blue ขนาด 5132 GB

หลังจากใข้งานมาระยะหนึ่ง สรุปได้ว่า มีดีกว่าที่คาดหวังไว้ จากรูรับแสงที่กว้างขึ้น ชิปใหม่ A15 Bionic ที่แรงที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนยุคปัจจุบัน และ Neural Engine ภาพถ่าย ชัดเจน สวยงาม แม้แต่ในสภาวะแสงน้อย ภาพออกมาเป็นธรรมชาติ สำหรับผู้ชื่นชอบการใช้งานด้านกล้อง ไม่เพียงแต่คุณสมบัติการถ่ายภาพดีขึ้นเท่านั้น แต่ทางด้านวีดิโอแล้วยกระดับขึ้นมามากแต่ใช้งานอย่างง่ายๆ นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่ทรงพลังที่สุด ตอบสนองการใช้งานครบครัน 

เริ่มต้นจาก iPhone 13 กับ iPhone 13 mini ต่างกันที่ขนาด 6.1 นิ้ว และ 5.4 นิ้ว  ออกแบบใหม่ทั้งภายในและภายนอก  ออกแบบเพรียวบางงขอบแบนทนทาน และโครงอะลูมิเนียมเรียบแต่ดูหรูหรา กล้องหลังออกแบบแนวทะแยง มีให้เลือก 5 สี ได้แก่สีแดง (PRODUCT)RED, สตาร์ไลท์, มิดไนท์, น้ำเงิน และสีชมพู

ทางด้าน iPhone 13 Pro  และ iPhone 13 Pro Max จอ OLED ขนาด 6.1 นิ้วและ 6.7 นิ้ว จอ ProMotion รองรับรีเฟรชเรต 120 Hz เพื่อการใช้หน้าจอที่ไหลรื่นและการเล่นเกมที่มีความสมู้ทเพิ่มเติมอรรถรสในการเล่นมากขึ้น สามารถปรับการใช้งานได้ตั้งแต่ 10-120 Hz

ดูเผินๆ  การออกแบบคล้ายกับรุ่นก่อนหน้า ขอบสแตนเลส ด้านหลังเป็นกระจกผิวด้าน กล้องออกแบบใหม่เลนนูนมากขึ้น เพิ่มสีใหม่และ แต่ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ คุณสมบัติการใช้งานใหม่ๆ มากมาย มี 4 สีให้เลือก สีกราไฟต์, ทอง, เงิน และสีใหม่คือเซียร์ร่าบลู

ระบบกล้องล้ำยุคและทรงพลัง

ระบบกล้องโปรบน iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ประกอบด้วยกล้องอัลตร้าไวด์รับแสงที่กว้างขึ้นขนาด ƒ/1.8 แบบใหม่หมดพร้อมออโต้โฟกัส ซึ่งทำให้สามารถถ่ายภาพมาโครได้, กล้องไวด์ รูรับแสงขนาด ƒ/1.5  และกล้องเทเลโฟโต้ รูรับแสงขนาด ƒ/2.8 ที่ซูมแบบออปติคัลได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า  

Portrair Mode ของ iPhone13 Pro Mฟx รูรับยแสงกว้างขึ้น ชิป 15 และ Neural Engine ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อย ไม่มีแสงแดด มีความคมชัด สว่างมากขึ้น

สำหรับ iPhone 13 ระบบกล้องคู่ กล้องอัลตร้าไวด์รูรับแสง ƒ/2.4 กล้อวงไวด์ รูรับแสง ƒ/1.6 โดยกล้องทุกรุ่นรองรับการถ่ายวิดีโอ HDR ในรูปแบบ Dolby Vusion ได้สูงสุดที่ 4K ที่ 60 fps ซึ่งผู้ใช้จะต้องเข้าไปการตั้งค่าในเครื่องก่อน   

หลังตั้งค่าเสร็จ ระบบกล้องจะให้เราเลือกสไตล์การถ่ายภาพของเราตามต้องการได้โดยตรงในกล้อง  1.แบบมาตรฐาน 2.ความต่างระดับสีสูง 3.สดใส 4.โทนอุ่น และ 5.โทนเย็น  แต่องค์ประกอบสำคัญของภาพอย่างโทนสีผิวยังคงดูดีเช่นเดิม หรือจะเลือกระหว่างการถ่ายจากแอปกล้องได้

พร้อมกับคุณสมบัติการถ่าย Macro ด้วยระยะโฟกัสใกล้สุดเพียง 2 ซม. ทำให้เห็นรายละเอียดของภาพถ่ายชัดเจนมากขึ้น รองรับทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ การใช้งานง่ายๆ เพียงแค่นำโทรศัพท์เข้าไปจ่อใกล้ๆ แล้วกดปุ่มถ่ายแค่นั้น ระบบกล้องจะเปลี่ยนการทำงานอัตโนมัติ ส่วนโหมด Portrait ใน iPhone 13 ถ่ายในแสงธรรมชาติก่อนฝนตกเฆฆมากไม่มีแสงแดด ที่ได้รายละเอียดคมชัด แม้แต่เงาของสีผม

โหมดถ่ายภาพยนตร์น่าทึ่ง

สิ่งที่ทำให้ iPhone 13 ล้ำหน้าไปกว่าคู่แข่งมาคือโหมดการถ่ายภาพยนตร์ หรือ Cinematic Mode  ที่ปกติแล้วสตูดิโอถ่ายภาพยนตร์จะนิยมถ่ายวิดีโอแบบโกเก้หรือ หน้าชัดหลังเบลอ หน้าเบลอหลังชัด สำหรับการถ่ายบุคคล หรือสิ่งของใน ฉากเดียวกันแต่สลับโฟกัสหน้าตาของแต่ละบุคคลเพื่อสื่ออารมณ์ของการเดินเรื่อง

การถ่ายและวิดีโอที่ออกมาประทับใจมาก พลิกอารมณ์ด้วยโฟกัสชัดลึก ชัดตื้นแบบอัตโนมัติที่สามารถถ่ายได้ในโทรศัพท์ได้เพียงแค่เลือกโหมดการถ่ายและกดปุ่มถ่ายเท่านั้น แต่ลองถ่ายสักพักตัวเครื่องค่อนข้างร้อน 

ขณะเดียวกันยังรองรับการถ่ายนวิดีโอ ProRes สำหรับมืออาชีพ สามารถ่ายและตัดต่อจบได้เลยบน iPhone 13 Pro และนำไปแชร์ในรูปแบบ Dolby Vision ได้เลย น่าจะเหมาะกับมืออาชีพเช่นเอเยนซี่โฆษณา รายการทีวีและ สตูดิโอถ่ายภาพยนตร์ต่างๆ 

เมืองลองวัดประสิทธิภาพการทำงานผ่านแอป Geekbench 5 สำหรับประสิทธิภาพการทำงานด้านซีพียู iPhone 13 Pro Max ได้คะนนอันดับหนึ่งสำหรับซิงเกิล คอร์ที่ 1,738 คะแนน นำห่าง iPhone 12 Pro Max ที่ได้คะแนน 1,591 คะแนน ส่วนมัลติ คอร์ได้ 4,766 คะแนน มากกว่า iPad Pro รุ่นที่สองที่ได้คะแนน 4,637 คะแนน   ส่วนประสิทธิภาพด้าน Copute ได้คะแนนอันดับหนึ่ง 14,389 คะแนน โดยอันดับสอง iPad Pro รุ่นที่สองได้ 11,861 คะแนน

คุณสมบัติการใช้งานใหม่ๆ ของ iPhone 13 ยังมีอีกมากไม่ว่าจะการเล่นเกมจากการลองเล่นเกม Mobile Legends และเกม Genshin Impact ซึ่งเป็นเกมอลังการ ที่ใช้กราฟฟิกละเอียดมากปรับเฟรมเรตได้สูงสุด 60 fps ซึ่งจอ Adaptive ที่รองรับได้ถึง 120 Hz ของ iPhone 13 ปรากฏรู้สึกไหลรื่นตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับ iPhone 12 mini  รวมไประบบปฏิบัติการ iOS 15 ที่ได้อัพเกรดครั้งใหญ่และรีดประสิทธิภาพของ iPhone 13 เพิ่มขึ้นอีก

ราคาจำหน่าย iPhone 13 ในประเทศไทย

ราคา iPhone 13 mini

  • ความจุ 128GB ราคา 25,900 บาท
  • ความจุ 256GB ราคา 29,900 บาท
  • ความจุ 512GB ราคา 37,900 บาท

ราคา iPhone 13

  • ความจุ 128GB ราคา 29,900 บาท
  • ความจุ 256GB ราคา 33,900 บาท
  • ความจุ 512GB ราคา 41,900 บาท

ราคา iPhone 13 Pro

  • ความจุ 128GB ราคา 38,900 บาท
  • ความจุ 256GB ราคา 42,900 บาท
  • ความจุ 512GB ราคา 50,900 บาท
  • ความจุ 1TB ราคา 58,900 บาท

ราคา iPhone 13 Pro Max

  • ความจุ 128GB ราคา 42,900 บาท
  • ความจุ 256GB ราคา 46,900 บาท
  • ความจุ 512GB ราคา 54,900 บาท
  • ความจุ 1TB ราคา 62,900 บาท

ภาพถ่ายจาก iPhone 13 Pro Max