อนุทิน ย่ำราตรีตรวจถนนข้าวสาร มาตรการเปิดผับตี4 แฮปปี้ทุกฝ่าย พร้อมให้ความร่วมมือ เผย หากไร้ปัญหา ไม่มีความวุ่นวาย อาจขยายพื้นที่โซนนิ่ง
- เน้นย้ำต้องไม่มีของต้องห้ามทั้งยาเสพติด อาวุธร้ายแรง
- การปล่อยปละละเลยกฎหมาย ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ
วานนี้(16 ธันวาคม 2566) เวลา 23.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ร่วมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, ตำรวจ และกรุงเทพมหานคร
ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบริเวณถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ หลังจากรัฐบาล ได้เปิดพื้นที่นำร่องขยายเวลาเปิดผับหรือสถานบันเทิง ถึงตี 4 ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยร้านที่จะเปิดได้ ต้องมีใบอนุญาต เท่านั้น
นายอนุทิน ได้ตรวจบริเวณร้าน THE CLUB, BRICK BAR โดยได้กำชับให้สถานประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ขณะที่นักเที่ยว ต้องห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แล้วขับขี่เด็ดขาด เพราะผิดกฎหมาย และ อาจเกิดความมึนเมา จนส่งผลกระทบต่อชีวิต และทรัพย์สิน ทั้งของตนเอง และผู้อื่น ตลอดเส้นทางมีประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้ามาทักทายนายอนุทิน เป็นจำนวนมาก
นายอนุทิน เปิดเผยว่า ภาพรวมวันนี้ ในพื้นที่ ดูดี ผู้ประกอบการอยู่ในระเบียบ ปฏิบัติตามกฎหมาย ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันแล้วว่า ทุกร้านให้ความร่วมมือ นักท่องเที่ยว ก็ไม่มีปัญหาให้ต้องวิตก สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการเห็นความสงบเรียบร้อย
สำหรับการเพิ่มจำนวนใบอนุญาต แก่สถานประกอบการ และขยายพื้นที่โซนนิ่งนั้น นายอนุทินกล่าวว่า ที่เปิดตอนนี้ ต้องดูว่าอยู่ในระเบียบหรือไม่ อย่าลืมว่า อะไรที่ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น รัฐบาลพร้อมสนับสนุน การเปิดสถานบริการถึงตี 4 ทำให้เงินหมุนเวียนมากขึ้น การจ้างงานเพิ่มมากขึ้น รวมถึงGrab หรือแท็กซี่ ก็มีรายได้เข้ามามากขึ้น นี่คือเจตนารมณ์ของรัฐบาล แต่ก็ต้องอยู่ในกฎระเบียบ ถ้าอยู่ในจุดที่คุมได้ ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือดี ก็พร้อมจะพิจารณาขยายพื้นที่ให้อยู่แล้ว
“เราไม่ได้จะมาจับผิดใคร เราไม่ได้มากดดันใคร แต่เราทำงานร่วมกัน ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กรุงเทพมหานคร ปปส. เราทำงานรวมกัน เพื่อสร้างความมั่นใจ ว่าต้องไม่มีของต้องห้ามทั้งยาเสพติด อาวุธร้ายแรง และ การปล่อยปละละเลยกฎหมาย ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ เรื่องแบบนี้ ต้องไม่มี รวมถึงประเด็นเหตุร้ายอันเกิดจากนักเที่ยวเมาสุรา ก็ต้องช่วยกัน เพราะถ้าเมา มีเรื่อง มีคดี วุ่นวายแน่นอน ผู้ประกอบการ เขาบอกแล้วว่าจะเซฟตัวเอง เห็นพวกเมาแอ๋ เขาจะไม่ขายเหล้าให้ ส่วนเรื่องอาวุธ ก็ต้องช่วยกันดูแล อย่างน้อยก็ช่วยเซฟชีวิต กันและกัน” มท.1กล่าว
นายอนุทินกล่าวต่อว่า ที่มาอยู่ตรงนี้ วมาสร้างความมั่นใจว่าสถานที่ท่องเที่ยวของไทย มีความปลอดภัยปิดตี 4 ก็ยังดูแลได้ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ร่วมด้วยช่วยกันอยู่แล้ว เห็นเศรษฐกิจหมุนเวียน ขายของได้มากขึ้น มีรายได้ เพิ่มมากขึ้น อะไรทำได้ ก็อยากทำ ซึ่งเท่าที่เห็น สถานการณ์ต่างๆ ที่นี่ ยังเรียบร้อยดี จะได้มีข้อมูลไปแจ้งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่านโยบายที่ออกมาเป็นอย่างไร ถือว่าเวิร์คนะ เรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นไปด้วยดี ส่วนภาพรวมในทุกพื้นที่ ต้องบอกว่า ก็เพิ่ง 2 วันเอง ต้องดูให้นานกว่านี้ ถ้าช่วยกัน ก็ไปต่อได้ แต่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันระวัง ช่วยกันเตือน
