“เอกนัฏ” พบโมเดิร์นเทรดชั้นนำของไทยกว่า 40 ราย แจงมาตรการเข้ม ขายสินค้าต้องได้มาตรฐาน

“เอกนัฏ” พบโมเดิร์นเทรดชั้นนำของไทยกว่า 40 ราย
“เอกนัฏ” พบโมเดิร์นเทรดชั้นนำของไทยกว่า 40 ราย แจงมาตรการเข้ม ขายสินค้าต้องได้มาตรฐาน


“เอกนัฏ” ระดมโมเดิร์นเทรดชั้นนำของไทยกว่า 40 ราย แจงมาตรการเข้ม ขายสินค้าต้องได้มาตรฐาน พบกระทำผิดดำเนินการทางกฎหมายทุกกรณี

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเดินหน้ามาตรการป้องกันการผลิต นำเข้า และจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ภายใต้นโยบายปกป้องอุตสาหกรรมไทย สร้างความเท่าเทียม และสร้างโอกาสในการแข่งขันให้กับ SMEs โดยมีมาตรการออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่ต้องมีความปลอดภัยแก่ประชาชน โดยเฉพาะสินค้าควบคุมทั้ง 144 มาตรฐาน ครอบคลุมสินค้า 308 ผลิตภัณฑ์ ที่จำหน่ายอยู่ในร้านค้า ห้างโมเดิร์นเทรด และร้านค้าออนไลน์ หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด

รวมทั้งยกระดับการคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน โดยเพิ่มจำนวนสินค้าควบคุมให้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อประชาสัมพันธ์ ควบคุม และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น 

ประกาศนโยบายที่เข้มงวดต่อ 40 โมเดิร์นเทรด

สำหรับมาตรการล่าสุดในวันนี้ ที่ได้เชิญผู้ประกอบการห้างโมเดิร์นเทรดชั้นนำของไทยกว่า 40 ราย ในฐานะผู้ให้บริการเช่าพื้นที่ และผู้จำหน่ายสินค้ารายใหญ่ ที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ เข้าร่วมการสัมมนาเพื่อรับทราบนโยบายการดำเนินงานของกระทรวงอุตสาหกรรม ในการป้องกันการผลิต นำเข้า และจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน และการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน 

“โดยเฉพาะในช่วงเดือนนี้ ห้างโมเดิร์นเทรดหลายแห่ง ได้ออกแคมเปญ 11.11 เพื่อส่งเสริมการขายทั้งที่จำหน่ายหน้าร้านและในแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ ขอความร่วมมือให้ทุกท่านตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่จำหน่ายด้วยว่าได้มาตรฐานหรือไม่ หากเป็นสินค้าควบคุม ต้องเป็นสินค้าที่มีเครื่องหมาย มอก. และมี QR Code  ที่สินค้า

เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบรายละเอียดของสินค้า และข้อมูลของผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาต รวมทั้งเป็นช่องทางในการร้องเรียนในกรณีที่สินค้าไม่เป็นไปตามมาตรฐานตามที่ระบุไว้ด้วย” นายเอกนัฏฯ กล่าว

ดำเนินการกับผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จำนวน 517 ราย

นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในรอบปีที่ผ่านมาระหว่างเดือนกันยายน 2566 – เดือนกันยายน 2567 กระทรวงอุตสาหกรรม โดย สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ดำเนินการกับผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จำนวน 517 ราย ยึดอายัดสินค้ารวมมูลค่ากว่า 395 ล้านบาท  

สำหรับการสัมมนาในวันนี้ ได้เชิญผู้บริหารของห้างโมเดิร์นเทรดชั้นนำของไทยกว่า 40 ราย อาทิ แมคโคร  เทสโก้โลตัส  เซเว่น-อิเลฟเว่น  ไทวัสดุ  ดูโฮม  โกลบอลเฮ้าส์  โฮมโปร  บุญถาวร  เซ็นทรัล  เทอร์มินอลทเวนตี้วัน  คิงเพาเวอร์     อินเด็กซ์ลีฟวิ่งมอลล์  บิ๊กซี  อีเกีย  และค็อกพิท เป็นต้น มาให้ความรู้ในการจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะสินค้าควบคุม เช่น ปลั๊กพ่วง สายไฟฟ้า  พาวเวอร์แบงค์ ของเล่น และหมวกกันน็อค เป็นต้น ที่จำหน่ายอยู่ในห้างโมเดิร์นเทรด และรับทราบนโยบายการดำเนินงานของกระทรวงอุตสาหกรรมในการป้องกันการผลิต นำเข้า และจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน โดยท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมไทย และคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน โดยขอความร่วมมือห้างโมเดิร์นเทรดให้จำหน่ายสินค้าที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งตรวจสอบร้านค้ารายย่อยที่เช่าพื้นที่จำหน่ายสินค้าภายในห้างให้จำหน่ายสินค้าที่ได้มาตรฐานและถูกต้องตามกฎหมายด้วย 

สำหรับบทลงโทษผู้ฝ่าฝืน ทำ นำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตแต่ไม่แสดงเครื่องหมายมาตรฐานกับสินค้า มีโทษปรับไม่เกิน 3 แสนบาท ส่วนผู้โฆษณาและผู้จำหน่าย จำคุกไม่เกิน 6 เดือน มีโทษปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบว่าสินค้าไม่แสดงรายละเอียดสินค้า เครื่องหมายมาตรฐาน และ QR code จะเอาผิดทั้งผู้นำเข้า ผู้โฆษณา และผู้จำหน่ายขั้นเด็ดขาดโดยไม่มีการละเว้น ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว

กระทรวงอุตสาหกรรม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : “เอกนัฏ” ลุยกวาดล้างโรงงานเถื่อน จ.ฉะเชิงเทรา พบไม่มีใบอนุญาตครอบครองวัตถุอันตราย