ในงาน Asia-Pacific ICT Summit 2024 ซึ่งร่วมจัดโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หัวเว่ย และพันธมิตรอุตสาหกรรม GSMA หัวเว่ย ประกาศความพร้อมที่จะนำพาประเทศไทยเข้าสู่ยุค 5.5G โดยอาศัยความสำเร็จของ 5G เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลของประเทศไทยด้วยเครือข่ายอัจฉริยะรุ่นถัดไปที่มีความเร็วสูงสุด
ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลในภูมิภาคนี้ ได้เห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วในการนำ เทคโนโลยี 5G มาใช้ เพื่อผลักดันพัฒนาการทางดิจิทัลในอุตสาหกรรมอย่างมีนัยสำคัญและเสริมสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยวิวัฒนาการและการมาถึงของ 5.5G ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอย่างยิ่ง
การมาถึงของ 5.5G : ก้าวสำคัญของประเทศไทย
มาตรฐานการใช้งานในระดับสากลของ 5.5G ซึ่งจัดทำแล้วเสร็จตั้งแต่ต้นปี 2567 ที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวสำคัญในการสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งเทคโนโลยีนี้ ได้ปรับปรุงและยกระดับการใช้งานของเทคโนโลยี 5G ดังนี้:
- อัลตราบรอดแบนด์ (Ultra-Broadband): 5.5G ให้ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงถึง 10 Gbit/s ซึ่งเร็วกว่าการใช้งาน 5G ถึงสิบเท่า และความเร็วในการอัพโหลดอย่างน้อย 500 Mbit/s เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ไร้รอยต่อและรวดเร็วสูงสุด
- การรับประกัน SLA แบบกำหนดเอง (Deterministic SLA): ด้วยค่าความหน่วงที่ต่ำลง 1 มิลลิวินาที 5.5G รับประกันคุณภาพบริการซึ่งจำเป็นสำหรับแอปพลิเคชันและบริการที่ต้องทำงานแบบเรียลไทม์
- AI และเครือข่ายอัตโนมัติ (AI and Autonomous Networks): การรวม AI เข้ากับการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายและเครื่องมือการตลาดที่แม่นยำ ทำให้ผู้ให้บริการสามารถจัดการเครือข่ายขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หัวเว่ยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลของประเทศไทยยุค 5.5G
ในการกล่าวปาฐกถาที่งาน Asia-Pacific ICT Summit 2024 นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการ ฝ่ายขายกลุ่มธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคม ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความก้าวหน้าทางด้านเทคนิคเหล่านี้ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำหรับบริการใหม่ ๆ เช่น การเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT จำนวนมากซึ่งมีความหนาแน่นต่อพื้นที่มากขึ้นกว่า 1 ล้านชิ้นต่อตารางกิโลเมตรผ่านเครือข่าย 5G และมีระยะการสื่อสารที่ไกลขึ้น (Massive IoT), ประสบการณ์ที่ผสานโลกแห่งความเป็นจริงกับโลกเสมือนเข้าด้วยกัน ผ่านเทคโนโลยี 3D/MR/XR, เทคโนโลยีการสื่อสารจากยานพาหนะสู่ทุกสิ่ง V2X (Vehicle-to-Everything) และแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้ คาดว่าจะสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และขยายเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
“เมื่อเราเข้าสู่ยุค 5.5G หัวเว่ยมีความมุ่งมั่นมากขึ้นกว่าเดิม ในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่าน ทางดิจิทัลของประเทศไทย 5.5G ไม่เพียงแค่ เป็นเรื่องของการเชื่อมต่อเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของการสร้างโลก ที่ชาญฉลาด และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่ง อุตสาหกรรมต่าง ๆ สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมได้โดยไม่มีขีดจำกัด เราพร้อมที่จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านในครั้งนี้ โดยการรับรองว่าโซลูชัน 5.5G ของเรา จะเป็นไปตามมาตรฐานระดับโลก ผ่านการร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสีย ในอุตสาหกรรม และการศึกษา ในหลายภาคส่วน เช่น โทรคมนาคม การเงิน และการศึกษา เรามุ่งมั่น ที่จะสร้างระบบนิเวศ 5.5G ที่แข็งแกร่ง ในประเทศไทย เพื่อเปิดโอกาสใหม่ ๆ และ เร่งการเดินทางของประเทศในการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
งาน Asia-Pacific ICT Summit 2024 ถือเป็นงานที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยให้มุมมองที่ครอบคลุมถึง การเดินทางของเทคโนโลยีดิจิทัลในอนาคต เมื่อ ภูมิภาคนี้ยังคงเป็นผู้นำในการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล งานนี้ จึงเป็นเวทีสำคัญสำหรับการทำงานร่วมกัน นวัตกรรม และการสำรวจขอบเขตใหม่ ๆ ในโลกอัจฉริยะ
หัวเว่ย ยืนหยัดในความมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ให้บริการ และพันธมิตรทางอุตสาหกรรม เพื่อให้บริการเทคโนโลยี และโซลูชัน ICT อันทันสมัย นำโดย 5.5G คลาวด์ และ AI หัวเว่ยตั้งเป้าที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่แนวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลระดับโลก ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลที่ยั่งยืนสำหรับประเทศ
นอกจากนี้ คำกล่าวปาฐกถาจากผู้นำอุตสาหกรรม รวมถึงตัวแทนจาก GSMA และ ITU ได้เน้นย้ำถึงการเคลื่อนไหวระดับโลกของเทคโนโลยี 5.5G โดยเฉพาะในภูมิภาคต่าง ๆ เช่น จีนและตะวันออกกลาง งานนี้ได้เน้นย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในการเริ่มต้นแผนการพัฒนา 5.5G ภายในปี 2567
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : หัวเว่ย ร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเอไอของอาเซียน