องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนกว่าครึ่งหนึ่งของโลกเสี่ยงสูงเกิดโรคหัดระบาดภายในสิ้นปีนี้ จี้หามาตรการป้องกันเร่งด่วน
- มากกว่าครึ่งหนึ่งของโลกเสี่ยงสูงโรคหัดระบาด
- เหตุช่วงวิกฤติโควิดไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกัน
- จี้เร่งหามาตรการป้องกัน-ฉีดวัคซีนโดยเฉพาะในเด็ก
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า WHO ประกาศว่า ประเทศต่างๆ กว่าครึ่งหนึ่งของโลก จะมีความเสี่ยงสูงถึงสูงมาก ที่จะเกิดการระบาดของโรคหัดภายในสิ้นปีนี้ หลังจากโรคหัดเริ่มระบาดเพิ่มขึ้นในหลายๆ ภูมิภาค สาเหตุหลักมาจากในช่วงที่โควิดระบาด ประชากรโลกจำนวนมาก ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคอื่นๆ เลย เพราะหน่วยงานบริการด้านสุขภาพมุ่งแก้รับมือโควิด และไม่สามารถให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคอื่นๆ ได้ทันเวลา
นางนาตาชา โครว์ครอฟต์ ที่ปรึกษาอาวุโสด้านเทคนิคเกี่ยวกับโรคหัดและหัดเยอรมันจาก WHO กล่าวว่า สิ่งที่เรากังวลคือในปี 67 เราเห็นปัญหาความเหลื่อมล้ำในโครงการสร้างภูมิคุ้มกัน และหากเราไม่รีบดำเนินการฉีดวัคซีน โรคหัดก็จะแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ยังได้เรียกร้องให้แต่ละประเทศ ดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อปกป้องเด็กๆ เพราะสังเกตเห็นว่า รัฐบาลประเทศต่างๆ ขาดความมุ่งมั่นในการป้องกันโรค เมื่อเทียบกับปัญหาอื่ ๆ เช่น วิกฤติเศรษฐกิจ และความขัดแย้งของประเทศต่างๆ
สำหรับโรคหัดเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่าย เกิดจากไวรัสที่สามารถแพร่เชื้อและติดต่อกันได้ผ่านทางอากาศ ส่วนใหญ่ส่งผลกระทบต่อเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่ง WHO ระบุว่า สามารถป้องกันโรคหัดได้ด้วยการฉีดวัคซีน 2 โดส ซึ่งในอดีตจนถึงปัจจุบัน ทั่วโลกสามารถป้องกันการเสียชีวิตได้มากกว่า 50 ล้านคนนับตั้งแต่ปี 43 ด้วยความพยายามในการฉีดวัคซีน