

“เศรษฐา” เดินหน้าลุยงาน ไม่สนกระแสมีนายกฯกี่คน ดับเครื่องชน จะปรับครม.เมื่อไหร่ อยู่ที่ผมเท่านั้นที่มีอำนาจ
มีโอกาสไปรับประทานอาหารเย็นร่วมกับ คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับ เดอะแกงค์ ซึ่งมาจากกลุ่มคนหนังสือพิมพ์
ที่สนิทสนม และคุ้นเคยกันมานานหลายปีก่อนที่เขาจะตัดสินใจเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และตอบรับคำขอการเป็นแคนดิเดตนายกฯ กระทั่งบริหารราชการมาได้ 7 เดือน และขึ้นเดือนที่ 8 ในวันนี้แล้ว
พบกันอีกครั้งคราวนี้ นายกฯเศรษฐา ดูอิดโรยพอสมควร เพราะเดินสายพบปะประชาชนในจังหวัดต่างๆต่อเนื่อง ก่อนจะเดินทางไปขายประเทศไทยในต่างประเทศอีกครั้ง ช่วงสัปดาห์หน้า

ล่าสุด นายกฯ เดินทางไปเยี่ยมเยียนประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่น้อยคนจะกล้าเดินทางไป อาจเพราะเกรงว่ายังมีความรุนแรงอยู่ แต่นายกฯคนนี้ บอกว่า เขาไปดี เขาจะเอาเศรษฐกิจ และความกินดีอยู่ดีเข้าไปให้ อย่าง ราคายางปัจจุบันก็ขึ้นไปที่ 75 บาทต่อกก.แล้ว
ยังมีของดีในจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาสอีกมากมายที่สามารถนำมาส่งเสริมให้เป็นสินค้าราคาแพงของท้องถิ่นได้ นอกเหนือไปจากความสวยงามตามธรรมชาติของพื้นที่
เช่น ปลานิลน้ำไหล และปลาพลวงชมพู ปลาคู่บ้านคู่เมืองของยะลา ปลาทั้งสองชนิดนี้ ถ้าส่งเข้ากรุงเทพฯปัจจุบันราคาจะอยู่ที่ กก.ละ 3,000 บาท เจ้าของภัตตาคารหรูในกรุงเทพฯบอกว่า ถ้านายกฯมาช่วยขายแบบนี้ ราคาอาจสูงขึ้นกก.ละเป็นหมื่นบาท

ด้วยความหวังดี และไม่ได้ประสงค์ร้าย ย่าถามนายกฯแบบหลบตานิดๆว่า พอจะหยุดพักบ้างได้ไหม แล้วหันมาดูเรื่องอื่นๆ อาทิ ปัญหายาเสพติด คนอยู่นอกระบบการศึกษา และปัญหาสังคม อะไรทำนองนี้
นายกฯเศรษฐา จ้องหน้าตาเขม็ง แล้วตอบว่า ตอนนี้ ทหารตำรวจร่วมกันขึงพื้นที่ทั่วประเทศได้เกือบทั้งหมดแล้ว เหลือก็แต่ที่เมืองกาญ(จังหวัดกาญจนบุรี) ที่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ระดับสูงในท้องถิ่น ยังมีปัญหากันอยู่ ในพื้นที่ที่ถูกขึง จะบอกให้ว่า เขายิงตายไปเยอะแล้ว และผมสั่งว่า จับยาเสพติดได้เมื่อใด ให้เก็บไว้แค่ไม่กี่เม็ดเพื่อให้ศาลดู ส่วนที่เหลือให้เผาให้หมดในทันที
ผมกำลังจับตาดูอยู่ว่า เขาขึงพื้นที่กันขนาดนี้แล้ว ทำไมราคายาเสพติดจึงยังไม่ขึ้น หรือขาดตลาดเสียที นี่มันแสดงให้เห็นว่า ยาเสพติดในประเทศไทยเรามีจำนวนมากเหลือเกิน และยังมีช่องว่างให้นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านได้ด้วย
ส่วนเรื่องระบบการศึกษา ผมพยายามให้นโยบายไปแล้ว แต่มีการดำเนินการอย่างไร ผมยังไม่ทราบ อย่าถามผมเพราะผมไม่มีอำนาจ ผมยังส่งคนเข้าไปเป็นประธานบอร์ด ไปจัดระเบียบ และกวาดบ้านให้ตลาดหลักทรัพย์ไทยเรียบร้อย
ให้ได้ก่อนจะยกระดับเป็นสากลจริงๆ แล้วหาคนมีความชำนาญจริงๆเข้ามาทำงาน
พบกันคราวนี้ ไม่มีเรื่องหนุกหนานมาเล่าให้ฟัง นายกฯบอกว่า มีเรื่องตลกร้ายเหมือนกัน แต่ไม่ขำ และเล่าใหัฟังก็ไม่งาม เอาว่า ผมจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด อย่าถามว่า ประเทศไทยมีนายกฯกี่คน ไม่โกรธ ไม่น้อยใจ เพราะตอนนี้
มีผมคนเดียว และจะมีต่อไป 4 ปี
จะปรับครม.เมื่อไหร่ ผมเท่านั้นที่มีอำนาจ ถ้าเห็นว่าผมไม่เหมาะสม ผมก็แค่เก็บกระเป๋ากลับบ้าน กลับไปทำงานเก่าของผม ก็แค่นั้น!!