GPSC ลงนาม จูรองเอ็นจิเนียริ่ง ก่อสร้างโรงไฟฟ้าทดแทน คาดป้อนเข้าระบบปี 67



  • ทดแทนโรงไฟฟ้าเดิม ที่ครบอายุการใช้งาน กำลังการผลิต 96 เมกะวัตต์
  • มูลค่าลงทุน 4,000 ล้านบาท ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง
  • มั่นใจรักษาสัดส่วนกำลังผลิตไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น

นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด(มหาชน) หรือ GPSC  แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท โกลว์ เอสพีพี 2 จำกัดซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่ม GPSC ได้ลงนามในสัญญาก่อสร้าง (EPC: Engineering,  Procurement and Construction) กับ บริษัท จูรอง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (สิงคโปร์) และ บริษัท ไทย จูรอง เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด เพื่อดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้า SPP (Small Power Producer) ขนาดกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ จำนวน 2 เครื่อง หรือคิดเป็นกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 96 เมกะวัตต์ มูลค่าการลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดจ.ระยอง คาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงต้นปี 2567

ทั้งนี้โครงการดังกล่าว ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปี โดยเริ่มดำเนินการก่อสร้างใน
ไตรมาส 2/2565 และคาดว่าใช้เวลาในการก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 2/2567 โดยโครงการจะขายไฟฟ้าเข้าระบบของ กฟผ. (การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย) จำนวน 2 สัญญา รวม 60 เมกะวัตต์ เป็นเวลา 25 ปี ภายใต้โครงการโรงไฟฟ้าทดแทน (SPP Replacement) ส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าส่วนที่เหลืออีก 36 เมกะวัตต์ และไอน้ำที่ได้จากกระบวนการผลิตจำนวน 230 ตันชั่วโมง จะขายให้กับภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุด

“บริษัทฯ ได้คำนึงถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ รวมถึงสภาวะอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปในรอบระยะเวลาที่ผ่านมา และได้ออกแบบกำลังการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำให้เหมาะสม เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเก่าที่ครบอายุการใช้งานแล้ว โครงการนี้เป็นโรงไฟฟ้าชนิดโคเจนเนอเรชั่น ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ด้วยการเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งจะทำโครงการสามารถผลิตไฟฟ้าและไอน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีความมั่นคงด้านเสถียรภาพและความพร้อมให้กับ กฟผ. และลูกค้าอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุด จ.ระยอง สร้างความมั่นคงให้กับระบบผลิตไฟฟ้าของประเทศ ตลอดจนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” นายวรวัฒน์ กล่าว