คลังเล็งชงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในรัฐบาล “แพทองธาร” เติมเงินใส่กระเป๋าตังค์ประชาชนให้เร็ว เพื่อกระตุ้นการบริโภค จับจ่ายใช้สอย และให้กำลังใจประชาชน
- กระตุ้นการบริโภค
- จับจ่ายใช้สอย
- ให้กำลังใจประชาชน
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากสภาผู้แทนราษฎร ได้โหวตเห็นชอบให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร (อุ๊งอิ๊ง) เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทยนั้น มองว่าปัจจัยทางการเมืองอยู่ในช่วงสุญญากาศเพียงชั่วคราว ไม่มีผลต่อเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้
ซึ่งกระทรวงการคลังยังประเมินว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ตามประมาณการที่ 2.7%
ขณะเดียวกัน เพื่อดูแลเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ กระทรวงการคลังจะเตรียมมาตรการเสนอรัฐบาลชุดใหม่ หลังจากได้มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ซึ่งควรจะเติมเงินใส่กระเป๋าตังค์ประชาชนให้เร็ว เพื่อกระตุ้นการบริโภค จับจ่ายใช้สอย และเพื่อให้กำลังใจประชาชน
”มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ควรออกมาก่อนการเดินหน้าโครงการดิจิทัล วอลเล็ต เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องกระตุ้น และพยุงประชาชนไปก่อน เพราะกว่าเงินดิจิทัล วอลเล็ตจะออกมาก็ช่วงไตรมาส 4 และตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนด้วย“
ส่วนมาตรการต่อมา คือ มาตรการดูแลการยึดบ้าน ยึดรถของประชาชน เนื่องจากปัจจุบันความสามารถในการชำระหนี้ประชาชนลดลง ทำให้เป็นหนี้เสีย และโดนยึดบ้าน ยึดรถ ซึ่งเป็นการตัดช่องทางทำมาหากินให้กับประชาชน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเราได้ศึกษารายละเอียดมาตรการดังกล่าวอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการเปลี่ยนครม.ชุดใหม่ ก็ต้องเตรียมรายละเอียดเสนอรัฐบาลอีกครั้ง
นอกจากนี้ ในเรื่องการเรียกความเชื่อมั่นตลาดทุนนั้น กระทรวงการคลังก็ได้เดินหน้า เตรียมเสนอขายกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ประเภท ก. เพื่อให้รายย่อย นักลงทุนสถาบัน และอื่นๆ เข้ามาลงทุน วงเงินประมาณ 1-1.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะต้องมีการหารือกับร่วมกับผ่านนโยบายอีกครั้ง
- เอกชนมั่นใจฝีมือคนรุ่นใหม่
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค พท.ได้รับการโหวตให้เป็นนายกฯ คนที่ 31 ในการประชุมสภานัดพิเศษนั้น ไม่แปลกใจ
เพราะการที่คนรุ่นใหม่ก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯ อาจทำให้เพื่อไทยถูกเติมเต็มเรื่องกลุ่มผู้สนับสนุน และกลายเป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งในอนาคต
นายอธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตวงเงิน 450,000 ล้านบาท จะไม่ได้รับการเดินหน้าต่อหรือไม่นั้นไม่มีผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย เพราะปัจจุบันไม่ดีอยู่แล้ว
รัฐบาลใหม่ต้องเร่งออกมาตรการกระตุ้นในทุกหมวดเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งการลงทุนภาครัฐ และเอกชน การบริโภค การท่องเที่ยว เน้นทำภาพใหญ่ก่อน เพื่อให้นักลงทุนเชื่อมั่น
ที่สำคัญต้องเชิญนักลงทุนต่างประเทศ และของไทย มาหารือรับฟังความคิดเห็น ความต้องการของผู้ลงทุน ติดขัดตรงไหน
และ รัฐบาลใหม่ต้องเร่งการลงทุนการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ให้เป็นตามแผน ผลักดันโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ยังล่าช้า เพราะที่ผ่านมารัฐบาลได้ใส่เม็ดเงินการลงทุนไปมากแล้ว
จึงต้องเร่งรัดให้เสร็จโดยเร็วพื้นที่อีอีซีเป็นพื้นที่มีความสำคัญ และมีศักยภาพในการดึงนักลงทุนเข้ามายังประเทศไทย
ส่วนโครงการแลนด์บริดจ์ ต้องรอดูนโยบายจากรัฐบาลชุดใหม่จะเดินหน้าต่อหรือไม่ มองว่าเป็นโครงการที่ยังไกลตัว น่าจะเร่งอีอีซีให้สำเร็จมากกว่า
- หวังรับบาลใหม่สานต่อนโยบายเดิม
ด้าน นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและประธานคณะกรรมการอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต กล่าวว่า ถ้า น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ จะเรียกความเชื่อมั่นให้ประเทศไทยได้ในระดับหนึ่ง สานต่อนโยบาย และโครงการที่นายเศรษฐาทำไว้ก่อนหน้านั้น
โดยแนวทางนโยบายจะยังคงสอดคล้องกัน ไม่ได้เปลี่ยนรูปแบบนโยบายไปโดยสิ้นเชิง สิ่งที่ภาคเอกชนให้ความสำคัญที่สุด คือ การค้าการลงทุน โดยเฉพาะจากต่างประเทศต้องต่อเนื่องไม่มีสะดุด
- ปรับเงื่อนไขดิจิทัลวอลเล็ตใหม่
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) กล่าวว่า คุณอุ๊งอิ๊งเหมาะสมดำรงตำแหน่งนายกฯ ด้วยอายุที่ไม่ได้น้อยจนเกินไป และความสามารถในฐานะหัวหน้า พท.แต่โจทย์ท้าทายรอ ครม.ชุดใหม่ คือสภาวะเศรษฐกิจยังซึมยาว และมีภาวะเสี่ยง
ทั้งการส่งออกทรงตัว สถานการณ์โลกที่กระทบภาคเศรษฐกิจต่อเนื่อง อย่างสงครามภูมิภาค ที่กระทบกับโครงสร้างพลังงานโลก สิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่สุด คือปัญหาปากท้องของประชาชน รวมถึง การแก้ปัญหาทุนจีนที่เข้ามาทำธุรกิจในไทยที่ค่อนข้างมาก
“กรณีกระแสข่าวที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะยกเลิกโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ส่วนตัวมองว่าคงเป็นห่วง เพราะใช้เงินมาก และกรอบเวลาเหลือแค่ 4 เดือน ยังเจอสถานการณ์การเปลี่ยนนายกฯ อยากเสนอแนะ ถ้าจะสานต่อโครงการนี้ รัฐบาลต้องทบทวนกติกาใหม่
และปรับให้เหมาะสม มองว่า ดิจิทัลวอลเล็ตเหมาะช่วยเหลือคนยากจน และขาดสภาพคล่องทางการเงินมากกว่า หรือควรจะปรับมาอยู่ในรูปแบบลักษณะคล้ายกับโครงการคนละครึ่ง หรืออาจออกเป็นคูปอง ซึ่งช่วยได้มากกว่ากติกาในปัจจุบัน” นายธนิต กล่าว
- ดันนโยบายลงทุนเป็นวาระแห่งชาติ
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการ การนิคมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า จากการที่กนอ. มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการผลักดันนโยบายพลังงานสะอาดเพื่อรองรับอุตสาหกรรมโลก และรองรับนักลงทุน และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ให้ตอบรับกับเทรนด์โลก
อย่างไรก็ตาม จากการที่รัฐบาลมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มองว่าไม่กระทบกับความเชื่อมั่นนักลงทุน อีกทั้ง กนอ. ถือเป็นหัวหอกในการสร้างความเชื่อมั่น
โดยมองว่านโยบายรัฐบาลไม่ว่าจะยุคไหนการบริหารนิคมอุตสาหกรรมก็จะไม่เปลี่ยน โดยเฉพาะการพัฒนา ยกระดับอุตสาหกรรมให้แข่งขันเวทีโลกได้
“อยากให้นายกฯ ท่านใหม่ช่วยผลักดันการลงทุน โดยหากไม่ผลักดันในช่วงเวลานี้ก็อาจจะแข่งขันไม่ได้ และควรดันนโยบายลงทุนเป็นวาระแห่งชาติ” นายยุทธศักดิ์ กล่าว
นส่วนของการจัดตั้งรัฐบาลต่อจากนี้คงไม่ช้า เพราะจากการโหวดเลือกได้นางสาวแพทองธาร เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา คาดว่าในช่วง 1 เดือนก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ พร้อมเดินหน้านโยบายต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
“นอกจากการผลักดันนโยบายการลงทุนเป็นวาระแห่งชาติแล้ว สิ่งที่อยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการอีกสิ่งคือ นโยบาย Fast Track เพราะการดำเนินงานปกติจะต้องปรับเปลี่ยน นักลงทุนต่างต้องการพื้นที่สีเขียวมากขึ้น
จึงต้องปรับกฎระเบียบและผังเมืองเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน เพราะกนอ. “เปรียบเสมือเป็นผู้รับประกัน” เพราะนักลงทุนจะต้องอยู่กับเรา หากทำได้จะดึงเม็ดเงินเข้าประเทศได้อย่างมหาศาล”
ส่วนนโยบายแลนด์บริดจ์ ถือเป็นนโยบายที่รัฐบาลดำเนินการอยู่แล้ว กนอ. ถือเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินโครงการที่ต้องร่วมผลักดัน ยกระดับทางเศรษฐกิจของประเทศ
ดังนั้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ภารกิจของ กนอ. ถือว่าช่วยเพิ่ม GDP ประเทศได้ จากมูลค่าการลงทุนเฉลี่ย 2-3 แสนล้านบาทต่อปี จะช่วยทำให้ประเทศหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง
- จีนแสดงความยินดี อุ๊งอิ๊งค์
นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ตอบคำถามนักข่าวกรณี แพทองธาร ชินวัตรขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยในวันที่ 16 ส.ค. ฝ่ายจีนมีความเห็นความเห็นอย่างไรต่อเรื่องนี้ และมีความคาดหวังอย่างไรต่อความสัมพันธ์จีน-ไทย
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ฝ่ายจีนขอแสดงความยินดีกับ คุณแพทองธาร ที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทย และเชื่อว่าประชาชนชาวไทยจะบรรลุผลสำเร็จใหม่ๆ ที่ยิ่งใหญ่มากขึ้น บนเส้นทางการพัฒนาที่สอดคล้องกับเงื่อนไขของประเทศ
จีนและไทยเป็นมิตรประเทศและเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด ในปี 2025 จะเป็นวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับไทย นับเป็นโอกาสใหม่ในประวัติศาสตร์ ของการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี ซึ่งฝ่ายจีนยินดีทำงานร่วมกับไทยเพื่อสานต่อมิตรภาพดั้งเดิม
เสริมสร้างการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ กระชับความร่วมมือเชิงปฏิบัติให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ตลอดจนเสริมสร้างการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกันให้เข้มแข็งและลึกซึ้งมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ไทยสร้างไทย 6 เสียง โหวต “อุ๊งอิ๊งค์-แพทองธาร” นั่งนายกฯ คาดได้รวมรัฐบาลแน่
