กรมบัญชีกลาง แจง แนวทางการจ่ายเงินสงเคราะห์ เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียน เพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 65 ประจำปีงบประมาณ 67 กรณีรายการที่โอนเงินไม่สำเร็จ
นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามมติคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566 อนุมัติแนวทางการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพ แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ให้จ่ายเงินสงเคราะห์ฯ ในอัตรา 100 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 9 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม – กันยายน 2567
โดยจะดำเนินการจ่ายเป็นรายไตรมาส ผ่านระบบพร้อมเพย์และบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผู้มีสิทธิแจ้งตามหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่นหรือบัญชีบุคคลอื่น โดยผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิจะต้องเป็นผู้สูงอายุที่เกิดก่อนวันที่ 1 กันยายน 2507 ซึ่งมีรายการที่โอนเงินไม่สำเร็จ (Reject) จำนวน 245,288 คน
โดยมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ เมื่อวันพุธที่ 30 ตุลาคม 2567 ได้อนุมัติแนวทางการโอนเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
ทั้งนี้ รายการที่โอนเงินไม่สำเร็จ (Reject) และให้ทำการแก้ไขรายการที่โอนเงินไม่สำเร็จ (Reject) จำนวน 3 ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 วันที่ 6 พ.ย. 67 ครั้งที่ 2 วันที่ 6 ธ.ค. 67 และครั้งที่ 3 วันที่ 6 ม.ค. 68
ทั้งนี้ บัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน ต้องผูกพร้อมเพย์ก่อนวันจ่ายเงิน 3 วัน รวมถึงบัญชีเงินฝากธนาคารตามหนังสือให้ความยินยอมฯ (กรณีไม่สามารถผูกบัญชีพร้อมเพย์ได้) ยื่นหนังสือให้ความยินยอมฯ ณ สำนักงานคลังจังหวัด/กรมบัญชีกลาง
อย่างไรก็ตาม การแก้ไขรายการที่โอนเงินไม่สำเร็จ (Reject) ครั้งที่ 3 กรณีที่ไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคารตามหนังสือให้ความยินยอมฯ จะเพิ่มช่องทางการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หรือโอนเงินเข้าบัญชี พร้อมเพย์ของผู้มีสิทธิ ตามลำดับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : กรมบัญชีกลาง แจงหนังสือราชการปลอม แอบอ้างชื่อกรมหลอกผู้รับบำนาญ