

GMTI 2024 เปิดผลสำรวจปี’67 “ไทยรักษาอันดับ 5” ประเทศครองใจตลาดนักท่องเที่ยว มุสลิม ทั่วโลก ในหมวดกลุ่มประเทศที่ไม่ใช่มุสลิม ขานรับแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีหน้า ยกระดับเป็น “ศูนย์กลางฮาลาล” เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พัฒนาอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกดีเยี่ยม
ผู้สื่อข่าวรายว่า GMTI 2024 : The Mastercard-Crescent Rating Global Muslim Travel Index ได้จัดทำรายงานผลการสำรวจดัชนีการท่องเที่ยวของชาวมุสลิมทั่วโลกประจำปี 2567 ระบุประเทศไทยสามารถรักษาตำแหน่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวมุสลิม ติดอันดับ 5 หมวดกลุ่มประเทศที่ไม่ใช่ มุสลิม (Non-OIC)
ประเทศไทยได้รับคะแนนดัชนีโดยรวม 52 คะแนน ตามหลังสิงคโปร์ติดอันดับ 1 ทำได้ 14 คะแนน และต่ำกว่าฮ่องกง อันดับ 2 ห่างกันเพียง 2 คะแนนเท่านั้น คะแนนในหมวดหมู่ Non-OIC สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไทยได้พัฒนาประเทศเพื่อยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวให้นักเดินทางมุสลิม โดยได้เพิ่มตัวเลือกเด่น ๆ คือ อาหารฮาลาลและบูรณาการสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเป็นมิตรต่อชาวมุสลิม เช่น ห้องละหมาดตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ตรงตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ของการท่องเที่ยวของประเทศไทยพร้อมมุ่งสู่การเป็น “ศูนย์กลางฮาลาล” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปี 2570

จึงส่งผลดีเรื่องการขยายอุตสาหกรรมฮาลาลภาคส่วนต่าง ๆ ของไทยรวมถึงอาหาร เครื่องแต่งกาย การบริการ การท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงานสนับสนุนชุมชนมุสลิมในท้องถิ่น ทำให้เห็นความตั้งใจของไทยมีเป้าหมายจะรักษาตำแหน่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมครองใจนักเดินทางชาวมุสลิมทั่วโลก ซึ่งพิสูจน์ได้แล้วตามที่ GMTI ได้จัดอันดับประจำปีนี้
พิรุฬห์ โรจนกมลสันต์ รองประธานฝ่ายลูกค้า สถาบันการเงิน มาสเตอร์การ์ด (ประเทศไทย) กล่าวว่าไทยสร้างชื่อเสียงขยับขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักเดินทางชาวมุสลิม โดยครองอันดับต้น ๆ ตามรายงาน GMTI มานานหลายปี ตามข้อมูลเชิงลึกจากรายงาน GMTI ประจำปี 2024 เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวและหน่วยงานรัฐจัดทำบริการและข้อเสนอต่าง ๆ ตอบสนองความต้องการตลาดมุสลิมได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากไทยตั้งเป้าเป็น “ศูนย์กลางฮาลาล” เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นควรมุ่งเน้นปรับปรุงด้านการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มมากขึ้น
รวมทั้งควรจะบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลการเดินทางทุกด้าน และกลไกการชำระเงินอย่างปลอดภัย เข้าถึงได้ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งต่อกระบวนการดังกล่าว ด้วยโซลูชันการชำระเงินขั้นสูง มาสเตอร์การ์ดพร้อมให้การสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเพื่อยกระดับประสบการณ์ในการเดินทางที่ดียิ่งขึ้นให้กับนักเดินทางชาวมุสลิมในไทย
ในรายงาน GMTI ประจำปี 2024 ระบุว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเป็นภูมิภาคที่นักท่องเที่ยวมุสลิมนิยมมาเที่ยว ที่ครองอันดับต้น ๆ คือ มาเลเซียและอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศมุสลิม (OIC)3 ส่วนสิงคโปร์เป็นประเทศครองความนิยมมากสุดในกลุ่มประเทศที่ไม่ใช่มุสลิม (Non-OIC)
นายฟาซาล บาฮาร์ดีน ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ เครสเซนต์เรตติ้ง กล่าวว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เห็นกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถรักษาอันดับไว้ได้ ในรายงาน GMTI ปี 2567 แต่ละประเทศสามารถเพิ่มคะแนนโดยรวม สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวมุสลิม เห็นได้จากคะแนนเฉลี่ยในดัชนีเพิ่มขึ้น 10 %
แล้วในรายงาน GMTI ระบุเรื่อง “แนวโน้มตลาดการท่องเที่ยวมุสลิม” ปี 2567 จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ คาดการณ์จะมีนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมเดินทางระหว่างประเทศทั่วโลกมากถึง 168 ล้านคน สูงกว่าระดับก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 ถึง 5 % สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของตลาดมุสลิม เติบโตครอบคลุมทั้งจำนวนประชากรและเศรษฐกิจ การพัฒนาบริการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวฮาลาล รวมถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ออกแบบขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ดีให้ตลาดดังกล่าวโดยเฉพาะ

เช่น แอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ใช้ค้นหาร้านอาหารฮาลาล ทิศทางละหมาดหรือกิบลัต (Qibla) การแจ้งเตือนเวลาละหมาด แล้วยังมีปัญญาประดิษฐ์เข้ามามีบทบาทสำคัญช่วยออกแบบประสบการณ์การเดินทางให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังคงปฏิบัติตามหลักความเชื่อทางศาสนาได้เป็นอย่างดี
รายงาน GMTI ครั้งนี้จัดทำขึ้นเป็นปีที่ 9 โดยได้วิเคราะห์ข้อมูล 145 จุดหมายปลายทาง ใช้เกณฑ์ชี้วัด ACES ประกอบด้วย 4 ด้านหลัก ได้แก่ 1. Access : การเข้าถึงหรือการเดินทางเข้าประเทศ 2. Communications : การสื่อสารหรือการเข้าถึงกลุ่มตลาดและการสื่อสารไปยังตลาดเป้าหมาย 3. Environment : สิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยว 4. Service : บริการหรือการให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกแก่นักเดินทางชาวมุสลิม เมื่อเวลาผ่านไป หลักเกณฑ์ต่าง ๆ เหล่านี้ได้พัฒนาเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของนักท่องเที่ยวมุสลิม ปี 2567 ได้เพิ่มเกณฑ์ใหม่เกี่ยวกับความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการกลุ่มนักท่องเที่ยวคนพิการในตัวชี้วัดด้วย
ทั้งนี้ ประเทศที่ไม่ใช่มุสลิม (Non-OIC) คือ ประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกขององค์การความร่วมมืออิสลาม อาจมีประชากรมุสลิมจำนวนมาก หรือให้บริการแก่นักท่องเที่ยวมุสลิม แต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ องค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศ ประกอบด้วย สมาชิก 57 ประเทศ ส่วนใหญ่เป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุด ทาง OIC มีเป้าหมายจะปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของโลกมุสลิมด้วยจิตวิญญาณส่งเสริมสันติภาพและความสามัคคีระหว่างประเทศให้ได้มากที่สุด
เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza
สถาบันการเงิน มาสเตอร์การ์ด (ประเทศไทย)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ท่องเที่ยวตั้งเป้าดึงตลาดมุสลิมเข้าไทย 1 ใน 5 ของโลกปี’70 กรมท่องเที่ยว-5 องค์กรช่วยเอกชนชิงรายได้ 8.51 ล้านล้าน