

ชาวกาซาสูญเสียครอบครัวถึง 3 รุ่น จากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลได้ทำลายบ้านของโมฮัมเหม็ด ฮัมดาน เมื่อตอนเย็นวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา
- เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากการละหมาด
- การโจมตีนี้ได้คร่าชีวิตสมาชิกครอบครัวไป 35 คนใน 3 รุ่น
- ตั้งแต่คามาลวัย 70 ปี ไปจนถึงเด็กน้อยวัย 7 ขวบ
ฮัมดาน วัย 50 ปี ถูกฝังอยู่ใต้ซากบ้านของตัวเอง และใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งในการดึงตัวเองออกมา และพบว่าได้สูญเสียลูกสาว มาลัค, พี่ชาย อาเหม็ด, หลานชาย, หลานสาว และลูกพี่ลูกน้องอีกหลายคน
ฮัมดานเล่าถึงช่วงเวลาที่เกิดเหตุ พี่ชาย หลานชาย น้องชายและตัวเขากำลังนั่งรวมกันหลังจากเสร็จการละมาด จากนั้นเขาพบว่าตัวเองอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
ครอบครัวฮัมดานเป็นหนึ่งในหลายครอบครัวในกาซาที่ต้องเผชิญกับการทิ้งระเบิดทางอากาศและปืนใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วเป็นจำนวนมาก
สำหรับฮัมดาน สงครามได้ยุติทุกสิ่งที่เขารัก “เราเติบโตที่นี่ เราอยู่กับเด็กๆ เหล่านี้ ผมไม่คิดว่าจะเกิดความหายนะทั้งหมดนี้”
Khan Younis เป็นค่ายผู้ลี้ภัยที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1948 ขณะที่ชาวปาเลสไตน์รวมถึงครอบครัวของฮัมดานหนีหรือถูกบังคับให้ออกจากบ้านในช่วงสงครามในอดีตพร้อมกับการกำเนิดของอิสราเอล
จากค่ายพักแรมกลายเป็นเมืองที่มีตรอกซอกซอยแคบๆ มีอพาร์ทเม้นท์คอนกรีตภายใต้ประเทศอียิปต์ และต่อมาอยู่ในความยึดครองของอิสราเอล และสุดท้ายก็อยู่ในความควบคุมของกลุ่มฮามาส
ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา การสู้รบระหว่างอิสราเอลและฮามาสได้ปะทุขึ้นเป็นระยะๆ ขีปนาวุธและกระสุนปืนตกใส่ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์รุ่นต่อรุ่น
ญาติของฮัมดานจำนวนมากที่ไม่ถูกสังหารก็ได้รับบาดเจ็บ และไม่รู้ว่าพวกเขาจะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไร
ฮัมดานกล่าวว่า “เราเคยมาหากัน นั่งก่อไฟ กินข้าวเช้าด้วยกัน ผมเคยไปเยี่ยมน้องชายและพี่สาว ตอนนี้ไม่เหลือแล้ว ไม่มีพี่สาว ไม่มีน้องชาย และเราจะไม่ก่อไฟ เราจะไม่ได้มารวมตัวกันอีก”
ขอบคุณ รอยเตอร์