รัฐบาล กัมพูชา ยืนยัน จะเริ่มลงมือดำเนินการ โครงการขุดคลอง ฟูนัน เตโช ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้าง ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 62,370 ล้านบาท) ในเดือนสิงหาคม 2567 ที่จะถึงนี้ คลองนี้จะมีความยาว 180 กิโลเมตร เชื่อมต่อกรุงพนมเปญกับอ่าวไทย
คลองฟูนันเตโชที่ได้รับการสนับสนุน จากจีน ก่อให้เกิดความกลัวในประเทศเพื่อนบ้านเวียดนามว่า คลองดังกล่าวรือรบของจีนจะเข้ามาใช้ และ ลดการพึ่งพาท่าเรือของเวียดนามโดยกัมพูชา
ขณะที่ นักสิ่งแวดล้อม มีความกังวลว่า คลองความยาว 180 กิโลเมตรนี้ อาจทำให้เกิดผลกระทบ ลดปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขง ซึ่งเป็นแม่น้ำ ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก
เป็นที่ทราบกันดีว่า กัมพูชาได้รับเงินสนับสนุนจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ จากจีน ในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ในฐานะหนึ่งในพันธมิตรระดับภูมิภาคที่ใกล้ชิดที่สุด ของรัฐบาลปักกิ่ง ภายใต้อดีตผู้นำฮุนเซน
ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็น ลูกชายของฮุนเซน กล่าวว่า โครงการคลองฟูนันเตโชส่วนใหญ่จะได้รับทุนจากชาวกัมพูชา และ รัฐบาลกำลังเจรจากับบริษัทจีน เพื่อการลงทุนเพิ่มเติม
“เราจะดำเนินการตอนนี้ เราไม่สามารถรอใครได้อีกต่อไป” ฮุน มาเน็ต
โครงการดังกล่าว นับเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ของรัฐบาลปักกิ่ง ซึ่งเป็น โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ทั่วเอเชีย แต่ ฮุน มาเน็ต ยืนยันว่าจะให้บริการเฉพาะกัมพูชา เท่านั้น
“(เรา) ทำสิ่งนี้ภายในอาณาเขตกัมพูชาเพื่อชาวกัมพูชา และ เพื่อผลประโยชน์ของกัมพูชา” เขากล่าว
ทั้งนี้กัมพูชา และ จีนยังได้เสร็จสิ้นการซ้อมรบประจำปี ครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีเรือรบจีนหลายลำ และ เจ้าหน้าที่ทหารจีนหลายร้อยคนเข้าร่วม
ในเดือนธันวาคม เรือรบจีนสองลำได้เยือนฐานทัพเรือกัมพูชาเป็นครั้งแรก ซึ่งสหรัฐฯ ระบุว่าสามารถใช้เพื่อส่งเสริมอิทธิพลของจีนในอ่าวไทย
เจ้าหน้าที่กัมพูชาปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ฐานทัพดังกล่าวใกล้กับเมืองท่าสีหนุวิลล์ นั้นมีไว้ สำหรับการใช้งานโดยมหาอำนาจต่างชาติ
โครงการขุดคลอง ฟูนัน เตโช ได้รับการสนับสนุนจากจีนทั้งในแง่การลงทุน และ เทคโนโลยีในการก่อสร้าง มีขนาดความกว้าง 100 เมตร ลึก 5.4 เมตร
โครงการนี้ มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาระบบขนส่งสินค้า และ การค้าระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยลดระยะเวลาการเดินเรือ ระหว่างกรุงพนมเปญ และ ท่าเรือในอ่าวไทย และ ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของกัมพูชา
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งความหวังว่า โครงการนี้จะช่วยยกระดับกัมพูชา จากประเทศรายได้ต่ำเ ป็นประเทศรายได้ปานกลาง ในอนาคต
ก่อนหน้านี้ นายซัน จันทอล รองนายกรัฐมนตรีและรองประธานคนแรกของสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ได้กล่าวในการประชุมสุดยอดธุรกิจกัมพูชา-อาเซียน ว่า “เราจะไม่เปลี่ยนเส้นทางน้ำจากแม่น้ำโขงอย่างที่บางคนหวาดกลัว”
พร้อมระบุว่า ทางน้ำจะเป็นประโยชน์ต่อภูมิภาค และ ลดต้นทุนการขนส่งสินค้าได้อย่างมาก
คลองมีความกว้างต้นน้ำ 100 เมตร และปลายน้ำ 80 เมตร ความลึก 5.4 เมตร (ความลึกในการเดินเรือ 4.7 เมตร และช่องว่างด้านความปลอดภัย 0.7 เมตร) ) โครงการจะสร้างเขื่อนทางน้ำ 3 เขื่อน สะพาน 11 แห่ง ทางเท้ายาว 208 กิโลเมตร
โครงการนี้ ได้มีการศึกษารายละเอียดเป็นระยะเวลา 26 เดือน และ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี เมื่อมีการประกาศโครงการ ประเทศเวียดนาม ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของคลองที่มีต่อแม่น้ำโขง
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกัมพูชาชี้แจงว่า คลองดังกล่าว จะไม่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมหรือระบบนิเวศ ในเดือนธันวาคม นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเน็ต เอง ในระหว่างการเยือนเวียดนาม ได้ให้ความมั่นใจกับผู้นำเวียดนามว่า โครงการนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบน้ำในแม่น้ำโขง
ขณะที่มี การวิเคราะห์กันว่า คลอง ดังกล่าว ช่วยให้กัมพูชา ไม่ต้องพึ่งพาท่าเรือของเวียดนามในการส่งออก หรือนำเข้าสินค้าอีกต่อไป ซึ่งจะทำให้เวียดนามสูญเสียผลประโยชน์ และ อิทธิพลทางเศรษฐกิจไปอย่างมหาศาล
โดยนักการเมืองกัมพูชา มองด้วยว่า อาจเป็นเหตุผลหลักเบื้องหลังความกังวลของเวียดนามมากที่สุด ซึ่งไม่ใช่ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม แต่อย่างใด
https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/cambodia-to-begin-work-on-controversial-canal-in-august-pm
https://thediplomat.com/2024/01/why-is-vietnam-worried-about-cambodias-mekong-canal-project
https://thejournalistclub.com/politics-news22-25022024/249828
