

ส.อ.ท.เผย เดือนก.ย. ยอดผลิตรถยนต์ 122,277 คัน ลดลงร้อยละ 25.48 ยอดขายรถยนต์ในประเทศ 39,048 คัน ต่ำสุดในรอบสี่ปีห้าเดือน ลดลงร้อยละ 37.11 ส่งออก 80,254 คัน ลดลงร้อยละ 17.67 ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 1,481 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 148,000 ขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 4,574 คัน ลดลงร้อยละ 33.53
นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมเปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนกันยายน 2567 ดังต่อไปนี้
การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนกันยายน 2567 มีทั้งสิ้น122,277 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 25.48 ลดลงจากการผลิตเพื่อส่งออกลดลงร้อยละ 15.78 และผลิตเพื่อขายในประเทศลดลงร้อยละ 42.31 ตามจำนวนส่งออกและขายในประเทศที่ลดลง แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2567 ร้อยละ 2.17
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – กันยายน 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,128,026 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – กันยายน2566 ร้อยละ 18.61 รถยนต์นั่ง เดือนกันยายน 2567 ผลิตได้50,685 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 12.80
รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 34,205 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 21.43 • รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 1,481 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน2566 ร้อยละ 148,000 • รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 554 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ21.76 • รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 14,445 คันเพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 2.21
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – กันยายน 2567 มีจำนวน 426,719 คัน เท่ากับร้อยละ 37.83 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – กันยายน 2566 ร้อยละ 11.29
ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนกันยายน 2567 ผลิตได้ 87,666 คัน เท่ากับร้อยละ 71.69 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 15.78
ส่วนเดือนมกราคม – กันยายน 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 774,175 คัน เท่ากับร้อยละ 68.63 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี2566 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 4.42
รถยนต์นั่ง เดือนกันยายน 2567 ผลิตเพื่อการส่งออก 28,241 คันเพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 4.85 และตั้งแต่เดือนมกราคม – กันยายน 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 229,630 คันเท่ากับร้อยละ 53.81 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กันยายน 2566 ร้อยละ 4.86
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนกันยายน 2567 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 59,425 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 22.99 และตั้งแต่เดือนมกราคม – กันยายน 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 544,545 คัน เท่ากับร้อยละ 79.24 ของยอดการผลิตรถกระบะลดลงจากเดือนมกราคม – กันยายน 2566 ร้อยละ 7.86
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนกันยายน 2567 ผลิตได้ 34,611 คัน เท่ากับร้อยละ 28.31 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 42.31 และเดือนมกราคม – กันยายน 2567 ผลิตได้ 353,851 คัน เท่ากับร้อยละ 31.37 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม –กันยายน 2566 ร้อยละ 38.57
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนกันยายน 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 39,048 คัน ต่ำสุดในรอบ 53 เดือน ลดลงจากเดือนสิงหาคม2567 ร้อยละ 13.59 ลดลงจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อให้ผู้ซื้อรถยนต์เพราะหนี้ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ (SM) ยังอยู่ในระดับที่สูงที่ 208,575 ล้านบาท
หนี้เสียรถยนต์อยู่ที่ 259.330 ล้านบาท ในเดือนกรกฎาคม 2567 ประกอบกับการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศไตรมาสสองปี2567 ที่โตต่ำแค่ร้อยละ 2.3 และคาดว่า 2567 จะเติบโตแค่ร้อยละ2.7 – 2.8 เท่านั้น และดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนสิงหาคม2567 หดตัวร้อยละ 1.91 แสดงถึงรายได้คนทำงานยังคงอ่อนแอและส่งผลให้ยอดขายในเดือนกันยายน 2567 ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 37.11
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ยอดขายรถยนต์ดิ่ง เอ็นพีแอลกลุ่มรถยนต์พุ่ง