

“ปานปรีย์”พบประธานาธิบดีอิสราเอล ชื่นชมความพยายามรัฐบาลไทย ช่วยตัวประกัน พร้อมรับปากจะดูแลสิทธิและสวัสดิการของแรงงานไทยต่อไป
- “ปานปรีย์”ขอให้ฝ่ายอิสราเอลพิจารณาดำเนินการเรื่องสวัสดิภาพ
- สิทธิและสวัสดิการอันพึงได้สำหรับแรงงานไทย
- อิสราเอลยังหวังหลังสถานการณ์ดีขึ้น
- คนไทยจะกลับมาทำงานในอิสราเอลเหมือนเดิม
- เพราะเป็นกำลังสำคัญของภาคการเกษตรและเศรษฐกิจของอิสราเอล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ และคณะ เข้าเยี่ยมคาระวะนาย Isaac Herzog ประธานาธิบดีอิสราเอล ที่ทำเนียบประธานาธิบดี

โดยประธานาธิบดีอิสราเอลแสดงความเสียใจต่อการที่มีแรงงานไทยเสียชีวิต บาดเจ็บ และถูกจับเป็นตัวประกัน โดยกล่าวชื่นชมความพยายามของรัฐบาลไทยในการให้ความช่วยเหลือตัวประกันจนได้รับการปล่อยตัว

นายปานปรีย์ ขอบคุณฝ่ายอิสราเอลที่ให้การดูแลคนไทยเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการดูแลช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ตัวประกันชาวไทยที่ได้รับการปล่อยตัว และแจ้งว่า แม้ภารกิจในครั้งนี้เดินทางมาเพื่อดูแลคนไทยเป็นการเฉพาะ แต่ก็ขอให้ฝ่ายอิสราเอลพิจารณาดำเนินการเรื่องสวัสดิภาพ สิทธิและสวัสดิการอันพึงได้สำหรับแรงงานไทยด้วย เพื่อให้แรงงานไทยสามารถกลับมาทำงานในอิสราเอลในอนาคต เมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวย

ประธานาธิบดีอิสราเอลแสดงความชื่นชมประเทศไทยและคนไทย และย้ำถึงความสำคัญของแรงงานไทยต่อภาคการเกษตรอิสราเอล โดยรับปากดูแลสิทธิและสวัสดิการของแรงงานไทย ต่อไป

ทั้งนี้หลังจากที่นายปานปรีย์เดินทางถึงอิสราเอล ได้พบหารือกับนาย Eli Cohen รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัฐอิสราเอล ที่กรุงเทลอาวีฟ โดยนายปานปรีย์แสดงความยินดีที่อิสราเอลและฮามาสสามารถบรรลุผลสำเร็จในการเจรจาเพื่อขยายระยะเวลาการหยุดยิงเพื่อเหตุผลทางมนุษยธรรมออกไปอีกสองวัน และขอบคุณฝ่ายอิสราเอลที่ดูแลคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัวแล้ว 17 คน โดยขอให้อิสราเอลพยายามดำเนินการเพื่อปล่อยตัวคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลแสดงความเสียใจกับการเสียชีวิตของคนไทย รวมถึงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยกล่าวว่า ฝ่ายอิสราเอลให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์กับประเทศไทย และจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือตัวประกันคนไทยทั้งหมดต่อไป รัฐอิสราเอลจะให้สิทธิและสวัสดิการทางสังคมแก่คนไทยที่ได้รับผลกระทบทุกคน เช่นเดียวกับที่ชาวอิสราเอลได้รับ และหวังว่า เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น คนไทยจะกลับมาทำงานในอิสราเอลเหมือนเดิม เพราะเป็นกำลังสำคัญของภาคการเกษตรและเศรษฐกิจของอิสราเอล

ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฝากให้อิสราเอลดูแลแรงงานไทยที่ยังทำงานอยู่ในอิสราเอล ทั้งในด้านความปลอดภัย และในด้านสิทธิ์และสวัสดิการต่าง ๆ ที่แรงงานไทยพึงได้

อย่างไรก็ตามภารกิจสำคัญของนายปานปรีย์ครั้งนี้ คือการเยี่ยมคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัวที่อิสราเอล โดยนายปานปรีย์ ได้เยี่ยมคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัวจากเหตุการณ์ความขัดแย้งอิสราเอล โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลให้การต้อนรับ

ในโอกาสนี้ นายปานปรีย์ ได้ให้กำลังใจ ติดตามการดูแลรักษาคนไทยที่อยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาล Al Shamir Medical Center โดยให้คำมั่นว่าจะนำคนไทยที่พร้อมเดินทางกลับประเทศไทยสู่อ้อมกอดของญาติพี่น้องโดยเร็วที่สุด


