“กอบศักดิ์”ชี้ ความเชื่อมั่นนักลงทุน“ร้อนแรง” หลังจัดตั้งรัฐบาลชัดเจน

“กอบศักดิ์”ชี้ ความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมา“ร้อนแรง” หลังจัดตั้งรัฐบาลชัดเจน ตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

  • ความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลเป็น ปัจจัยที่มีความสำคัญเป็นหลัก
  • และตามมาด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
  • การท่องเที่ยวดีขึ้นเรื่อยๆ และกำลังจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นช่วงปลายปี
  • เตรียมเข้าพบรัฐบาล มีข้อเสนอ จะให้ตลาดทุนมีบทบาทในการช่วยเหลือเศรษฐกิจได้อย่างไร

วันนี้(6 ก.ย.)นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ FETCO แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน อัปเดตสถานการณ์การลงทุน และเศรษฐกิจว่า หลังจากมีความชัดเจนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ความเชื่อมั่นของตลาดหลักทรัพย์ใน 3 เดือนข้างหน้า กลับมาร้อนแรงอีกครั้งหนึ่ง จากความอึมครึมทางการเมืองดัชนีก็จะทรงๆ ไม่แน่ใจว่าจะเกิดผลอย่างไรจะไปทิศทางไหน แต่เมื่อ ตัวของรัฐบาลมีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ตัวความเชื่อมั่นนักลงทุนเองก็กลับมาดีขึ้น และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่กลับมาอยู่ในแดนภาวะของความร้อนแรง ในส่วนนี้ถ้าดูแยกเป็นส่วนๆ 4 กลุ่ม นักลงทุนรายย่อย นักลงทุนสถาบัน และกองทุนรวมและนักลงทุนต่างชาติ ปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ปัจจัยที่ทำให้มีความสำคัญต่อความเชื่อมั่นด้านบวก จะเห็นว่าความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลเป็น ปัจจัยที่มีความสำคัญเป็นหลัก และตามมาด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ พอความชัดเจนว่ารัฐบาลเป็นใคร ตัวของนโยบายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจที่พูดกันมาก่อนหน้านี้ก็ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ จะเห็นได้ชัดว่ารัฐบาลมีแนวคิดที่จะประคองเศรษฐกิจและกระตุ้นการใช้จ่ายระยะสั้น

ขณะเดียวกันภาคการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และกำลังจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นช่วงปลายปี ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ได้รับการตอบรับ

ส่วนปัจจัยที่ติดลบคือ ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีน ทั้งเรื่องเอฟเวอร์แกรนด์ และคันทรี่การ์เด้นท์ และเรื่องของภาคอสังหาริมทรัพย์โดยรวมของจีน รวมทั้งสถานการณ์การเมืองในประเทศ ที่กังวลว่า สิ่งที่จะเป็นปัญหาทางการเมืองจะเกิดขึ้นหรือไม่ และมีอีก 3 ประเด็นที่นักลงทุนยังพูดถึงอยู่คือ การเก็บภาษีซื้อขายหุ้น เรื่องความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และเรื่องเฟด

วันนี้จะมีการประชุมครม.นัดพิเศษ เพื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เชื่อว่าหลายคน ได้ตัวนโยบายที่รัฐบาลได้เผยแพร่ออกมาว่าจะมีประเด็นต่างๆอะไรบ้าง จะเริ่มอ่านได้ว่ารัฐบาลเศรษฐา1 มีความตั้งใจที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยอะไรบ้าง รวมทั้งด้านสังคม การเมือง เป้าหมายระยะ 4 ปี ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะต่อไป วันนี้มีความชัดเจน และนักลงทุนจะเริ่มศึกษานโยบายภาครัฐต่อไป วันที่ 11 ก.ย.แถลงนโยบายต่อรัฐสภา แล้วจะมีการประชุมครม.นัดแรกในวันที่ 12 ก.ย. 2566

ทั้งนี้เมื่อถวายสัตย์ฯเรียบร้อยแล้ว ตัวของรัฐมนตรีจะเริ่มดำเนินการขับเคลื่อนนโยบาย จะเห็นความชัดเจนแต่ละพรรคที่อยู่แต่ละกระทรวงจะขับเคลื่อนนโยบายหลักๆอย่างไร รวมไปถึง การที่มีหลากหลายพรรคจะมีความเชื่อมโยงทำนโยบายร่วมกันอย่างไร

“โดยรวมคิดว่าตัวนโยบายของรัฐบาลเศรษฐา 1 โอเคแล้ว แต่ปัญหาคือเรื่องงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด จึงอยู่ที่ว่าจะเอาไปใช้อะไรบ้าง เช่นนโยบายฟรีวีซ่า มาได้ถูกจังหวะพอดี ผมมีความกังวลใจมานานแล้วว่า ตัวของนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไทย โดยเฉพาะจากจีน บ่นอยู่เสมอว่ามีปีญหาเรื่องวีซ่า ที่ประกาศให้เข้ามาได้โดยไม่ต้องมีวีซ่าชั่วคราว ผมคิดว่าเป็นการแก้ปัญหาที่รวดเร็ว ตรงจุด เพราะค่าวีซ่าไม่เยอะ เมื่อเทียบค่าใช้จ่ายที่มาใช้ในเมืองไทยเป็นหลักหมื่น แต่วีซ่าเป็นหลักพัน ถ้าสามารถปลดล็อกตรงนี้ได้ ขณะที่รัฐบาลต้องรอขับเคลื่อนงบประมาณปีหน้า สามารถให้นักท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยพยุงตัวเองได้” นายกอบศักดิ์กล่าว

ขณะเดียวกันFETCO เตรียมเข้าไปพบรัฐบาล โดยข้อเสนอให้รัฐบาล เช่น จะส่งเสริมนักลงทุนในระยะยาวได้อย่างไร จะให้ตลาดทุนมีบทบาทในการช่วยเหลือเศรษฐกิจได้อย่างไร รวมไปถึงเรื่องการช่วยเหลือ เอสเอ็มอี พัฒนาชุมชนต่างๆทั่วไป รวมถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม