“คิง เพาเวอร์” มอบของขวัญล้ำค่าด้วย 3 POWER ปี’67 นำไทยสู่ความสำเร็จ ดัน “ย่านรางน้ำ” คว้ารางวัลอินเตอร์ “ฮับเทศกาล /FESTIVALISATION” ด้านธุรกิจดิวตี้ฟรีแชมป์ตลอดกาล9ปี “แบรนด์ อวอร์ด”ขยับลงทุนใหม่ “คิง เพาเวอร์ ซิตี้ บูทีก” ใน ONE BANGOK ปี’68หนุนเศรษฐกิจไทยโตยั่งยืน
“อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ตลอดปี 2567 ได้นำธุรกิจค้าปลีกเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวได้ไม่สิ้นสุด หรือ TRAVEL RETAIL ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทยเคียงข้างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด “POWER YOUR WORLD : เป็นได้สุด เป็นไปได้” เป็นพลังสร้างความสำเร็จในหลายมิติปรากฎขึ้นได้ในปี 2567 ด้วยกลยุทธ์ 3 POWER ดังนี้
@คิง เพาเวอร์ ทำสำเร็จนำรางน้ำฮับเทศกาลท่องเที่ยวโลก
- กลยุทธ์ที่ 1 POWER OF PLACE พลิกโฉม “รางน้ำ” สู่เดสติเนชั่นท่องเที่ยวระดับโลก โดยจับมือกับภาครัฐและเอกชน เช่น กรุงเทพมหานคร ผู้ประกอบการ ชุมชนย่านรางน้ำ พัฒนาและยกระดับพื้นที่เชื่อมโยงเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของโลก ด้วยเสน่ห์และเอกลักษณ์ย่านรางน้ำเป็นศูนย์รวมซอฟท์ พาเวอร์ ได้แก่ อาหาร ประเพณี ศิลปวัฒนธรรม พร้อมจะเป็น “พื้นที่ศูนย์รวมเทศกาล หรือ FESTIVALISATION” ทางคิง เพาเวอร์ได้นำร่องจัด ตรุษจีน สงกรานต์ และเฟสติวัลส่งท้ายปีต่อเนื่องตลอดทั้งปี
คิง เพาเวอร์ สร้างความสำเร็จภายในเวลาอันรวดเร็วหลังจัด 2 เทศกาล “ตรุษจีนและสงกรานต์” ปี 2567 ในธีม “FESTIVALISATION RANGNAM” ก็สามารถคว้ารางวัล “FRONTIER AWARDS 2024สาขา RETAILER CAMPAIGN OF THE YEAR” ที่ฝรั่งเศส ทำให้ย่านรางน้ำของไทยเป็นพื้นที่การท่องเที่ยวของโลกทันที
เทศกาลตรุษจีนและสงกรานต์ย่านรางน้ำปีนี้ช่วยกระตุ้น“นักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ” สร้างการรับรู้ขยายทั่วเอเชียกว่า 600 ล้านคน “สร้างรายได้เพิ่มขึ้น 140 %” มีสื่อในไทยและทั่วโลกพร้อมใจกันนำเสนอข่าวเทศกาลกว่า 2,000 สื่อ สร้างมูลค่ารวมเป็นพีอาร์แวลูได้ถึง 397 ล้านบาท ดึงดูดคนเข้าร่วมเทศกาลกว่า 198,000 คน มีปริมาณผู้เข้าใช้บริการ (STORE TRAFFIC) สูงขึ้นจากปี 2566 ราว 178%
- กลยุทธ์ที่ 2 POWER OF EXPERIENCE ลงทุนทำอย่างเข้มข้นต่อเนื่องโดยมุ่งเพิ่มประสบการณ์ “ช้อปปิ้งเหนือระดับครบทุกมิติ : ยกระดับ LOYALTY PROGRAMME” โดยรวมสิทธิประโยชน์ทุกกลุ่มธุรกิจเครือ คิง เพาเวอร์และพันธมิตรคัดสรรทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่ ท่องเที่ยว ไดนิ่ง เวลเนส และการเดินทางเพื่อพักผ่อน สร้างจุดขาย “Travel Lifestyle Experience” ให้นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ แล้วก็ใช้เทคโนโลยีการตลาดเพิ่มช่องทางติดต่อสื่อสารกับลูกค้าเติมเต็มและสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดเส้นทางให้ลูกค้าเข้าถึงทุกความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สามารถ “ขยายฐานตลาดใหม่” ทุกเจเนเรชั่นทุกเซกเมนท์กลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง โดยได้ร่วมกับพันธมิตร มอบประโยชน์และสิทธิพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ตลอดปี 2567 มีเครือข่ายใหม่กลุ่มพรีเมียร์เข้ามาเป็นสมาชิกระดับ VEGA และ CROWN เติบโตอย่างดี
@นำดิวตี้ฟรีไทยยืน 1 ในตลาดโลกครองแชมป์สุดยอดแบรนด์ 9 ปี
โดยมี “รางวัลระดับโลก” การันตีเมื่อต้นปี 2567 คือ “สุดยอดแบรนด์ของโลกแห่งปี 2023-2024 : BRAND OF THE YEAR” ปีที่ 9 สาขาค้าปลีกสินค้าดิวตี้ ฟรี : Retailer-Duty Free Category จาก WORLD BRANDING AWARDS ครั้งที่ 17 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมชิงกว่า 1,500 แบรนด์ ทว่า “คิง เพาเวอร์” ฝ่าความท้าทายชนะการตัดสิน 1 ใน 200 แบรนด์โลก ด้วยความแข็งแกร่งครบ 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 การวิจัยตลาดผู้บริโภค ด้านที่ 2 การประเมินมูลค่าแบรนด์ ด้านที่ 3 การลงคะแนนจากประชาชน มีผู้บริโภค 35 ประเทศ 6 ทวีป เทคะแนนให้อย่างท่วมท้น มีภาพลักษณ์ที่ดีเข้าถึงทุกเจเนอเรชั่นทุกเซกเมนท์
- กลยุทธ์ที่ 3 POWER OF PEOPLE : เปิดหน่วยธุรกิจด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม “THE ABLE BY KING POWER” : เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจ นำ คิง เพาเวอร์ พุ่งทะยานสู่ความเป็นไปได้ใหม่ ก้าวสู่องค์กรแห่งอนาคต เติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรควบคู่การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมทันสมัย เป็นผู้สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์แห่งชาติจูงใจให้ลูกค้าในตลาดโลก
โดยเฉพาะการทำโครงการคืนประโยชน์สู่สังคมหรือ CSR อย่างต่อเนื่องด้วย “KING POWER THAI POWER พลังคนไทย” ครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน คือ
ด้านที่ 1 : กีฬา ลงทุนสร้างและส่งมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมขนาด 7 คนเล่น ตามมาตรฐานสากล 100 สนาม มอบฟุตบอลสานฝันเด็กไทย 1 ล้านลูก ด้านที่ 2 : ดนตรี จัดประกวด The Power Band ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ด้านที่ 3 : ชุมชน พัฒนาร่วมสร้างดีไซน์สินค้าท้องถิ่นมากกว่า 143 แบรนด์ ยกระดับเป็นเกรดพรีเมี่ยมนำมาวางวางขายกระจายทุกช่องทางเครือข่าย คิง เพาเวอร์ ทั่วโลก
@เพิ่มจุดขายหมื่นตรม.ใน SAT-1 สุวรรณภูมิครบรอบ 1 ปี
“อัยยวัฒน์” ซีอีโอ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยังได้ทุ่มเทพลังสร้างสรรค์เศรษฐกิจไทยและการท่องเที่ยวในตลาดโลกต่อเนื่องใหม่อีก 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ “ร้านค้าเชิงพาณิชย์คิง เพาเวอร์อาคาร SAT-1 สุวรรณภูมิ” พื้นที่ 10,000 ตารางเมตร ใช้เงินออกแบบตกแต่งเปิดบริการในอาคารเทียบเครื่องบินรองใหม่หลังที่ 1 หรือ SAT-1 ชั้น 3 ขาออกต่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปี 2567 ดำเนินงานครบ 1 ปี เริ่มเปิดเมื่อ 28 กันยายน 2566 เป็นต้นมา สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยร้านอาหารและเครื่องดื่มเกรดพรีเมี่ยมโด่งดังระดับประเทศและนานาชาติ และมีโซนจำหน่ายสินค้าดิวตี้ฟรีดีไซน์ด้วยนวัตกรรมดึงดูดนักช้อปคนไทยและต่างชาติ
@เปิดคิง เพาเวอร์ ซิตี้ บูทีก เมืองช้อปปิ้งของโลก 8 โซน
โครงการที่ 2 คิง เพาเวอร์ ซิตี้ บูทีก การลงทุนใหม่ล่าสุดในโซนพาเหรด ชั้น 1-2 อาคาร ONE BANGKOK เปิดบริการเมื่อ 25 ตุลาคม2567 เป็นต้นมา โดยได้เนรมิตจุดขายหมู่บ้านช้อปปิ้งใจกลางเมือง แปลงโฉมกรุงเทพฯ ให้กลายเป็น “หมู่บ้านที่ซับซ้อนผสมความหลากหลายอย่างกลมกลืน : SOPHISTICATED VILLAGE” ก้าวสู่ศูนย์กลางการช้อปปิ้งโลก โดยได้ดีไซน์ 8 โซนเด่น มุ่งจับมือกับพันธมิตรรังสรรค์ผลิตภัณฑ์เทรนด์ใหม่ 200 แบรนด์ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 -22.00 น. เพื่อให้นักท่องเที่ยวคนไทยและทั่วโลกเดินช้อปอย่างเพลิดเพลินได้ใน 3 CITY ได้แก่
- “CITY OF REVOLUTION” คิง เพาเวอร์ แตกแบรนด์ใหม่ให้สตูดิโอระดับโลก “HAYON STUDIO” โดย “ไฮเม่ ฮายอน : JAIME HAYON มาดีไซน์โดนใจทุกเจเนเรชั่น นำเสนอสีสัน การออกแบบสถาปัตยกรรม ตกแต่งภายในที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว
- “CITY OF EXPERIENCE” เปิดแลนด์มาร์ค จุดเช็คอินใหม่ในกรุงเทพ มอบประสบการณ์ที่เป็นมากกว่าสถานที่ช้อปปิ้ง มีไอเทมสินค้าต่าง ๆ แบรนด์ลักชัวรี เอ็กซ์คลูซีฟ และลิมิเต็ดไอเทมส์ ละลานตากับรแบรนด์ไทยสุดอลังการยกมาไว้ที่นี่ที่เดียว
- “CITY OF HAPPENINGS” ศูนย์รวมกิจกรรมแหล่งนัดพบของคนทุกวัย และคนรุ่นใหม่อินเทรนด์ เป็นไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่น ส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างธุรกิจ ชุมชน ศิลปวัฒนธรรม เข้ากันได้อย่างลงตัว
“คิง เพาเวอร์” เดินหน้ามอบของขวัญล้ำค่า ด้วยพลังธุรกิจคนไทย เสน่ห์ไทย ปี 2568 มุ่งต่อยอด “เศรษฐกิจไทย มั่นคง ยั่งยืน” ทำให้การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจเติบโตเป็นพลังหล่อเลี้ยงคนไทยต่อไป
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ร่วมแสดงความยินดีกับสมาชิก คิง เพาเวอร์ ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 35 ปี คิง เพาเวอร์
